กลุ่มติดอาวุธฮามาสได้ปล่อยตัวชาวอิสราเอล 13 คนและพลเรือนต่างชาติ 4 คนที่พวกเขาจับเป็นตัวประกันในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนครั้งที่สองเพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์
ยานพาหนะขององค์กรกาชาดสากลบรรทุกตัวประกันที่กลุ่มฮามาสปล่อยตัว และข้ามจุดผ่านแดนราฟาห์ในฉนวนกาซามุ่งหน้าสู่อียิปต์ ก่อนเดินทางต่อไปยังอิสราเอล เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ในการปล่อยตัวประกันรอบที่สอง มีชาวอิสราเอล 13 คน และพลเรือนต่างชาติอีก 4 คน (Photo by Belal Al SABBAGH / AFPTV / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า กลุ่มฮามาสยินยอมปล่อยตัวตัวประกันรอบที่สองตามข้อตกลงหยุดยิง 4 วัน แม้จะเกิดปัญหาติดขัดบางประการทำให้ล่าช้ากว่ากำหนด แต่ในที่สุดตัวประกันชาวอิสราเอล 13 คนและพลเรือนต่างชาติอีก 4 คน ก็ได้รับอิสรภาพและถูกส่งมอบให้กับกาชาดสากลเรียบร้อยแล้ว
การส่งมอบครั้งนี้เกิดขึ้นช้ากว่าที่คาดไว้หลายชั่วโมง หลังจากกลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่าละเมิดข้อตกลงแลกเปลี่ยน ซึ่งเจ้าหน้าที่อิสราเอลปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ฮามาสไม่พอใจที่อิสราเอลมีทีท่าแทรกแซงการคัดเลือกนักโทษเพื่อปล่อยตัว และไม่อนุญาตให้ช่วยเหลือพลเรือนทางตอนเหนือของฉนวนกาซาในช่วง 4 วันของการพักรบ แต่ผู้ไกล่เกลี่ยอย่างกาตาร์และอียิปต์ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการให้อิสราเอลรักษาเงื่อนไขทั้งหมดของข้อตกลง การปล่อยตัวตัวประกันรอบสองจึงเกิดขึ้น
มาเจด อัล-อันซารี โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า ในการแลกเปลี่ยนครั้งที่สองตามข้อตกลงหยุดยิง ตัวประกันชาวอิสราเอล 13 คน ซึ่งเป็นเด็ก 8 คนและผู้หญิง 5 คน ได้รับการปล่อยตัวเพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 39 คน ซึ่งเป็นเด็ก 33 คนและผู้หญิง 6 คน
ส่วนชาวต่างชาติ 4 คนที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซาก็ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน และตามกระแสข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการเปิดเผยว่า กลุ่มคนเหล่านี้เป็นชาวไทย
ล่าสุด ตัวประกันทั้ง 17 คน เดินทางจากอียิปต์เข้าสู่ดินแดนอิสราเอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.