ยุโรปเข้มรับมือโอมิครอน ดัตช์เริ่มล็อกดาวน์ข้ามปี ผู้ดีประกาศสาธารณภัย

หลายประเทศในยุโรปประกาศข้อกำหนดควบคุมไวรัสโควิด-19 หลังจากพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้น เนเธอร์แลนด์ล็อกดาวน์ถึงกลางเดือน ม.ค.ปีหน้า กรุงลอนดอนประกาศภาวะสาธารณภัย

รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 กล่าวว่า นับแต่พบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนที่แอฟริกาใต้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ทำให้ขณะนี้หลายประเทศกลับมาใช้มาตรการจำกัดการเดินทางและมาตรการอื่นๆ หวังควบคุมการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้ง่ายมากนี้

อัวร์ซูลา วอน แอร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เตือนว่า โอมิครอนอาจเป็นสายพันธุ์หลักที่พบได้มากในยุโรปภายในกลางเดือนมกราคมปีหน้า

วันเสาร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมาร์ก รุตเทอ ของเนเธอร์แลนด์ ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เริ่มมีผลตั้งแต่วันอาทิตย์ โดยสั่งปิดร้านค้าที่ไม่จำเป็น รวมถึงสถานบันเทิงและวัฒนธรรม ไปถึงวันที่ 14 มกราคม 2565 ส่วนโรงเรียนจะปิดไปถึงอย่างน้อยวันที่ 9 มกราคม

มาตรการควบคุมนี้ยังจำกัดจำนวนการต้อนรับแขกของบ้านแต่ละหลังอย่างเข้มงวดมากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่กล่าวกันว่าจะยกเว้นให้สำหรับวันคริสต์มาส

"สรุปเป็นประโยคเดียวคือ เนเธอร์แลนด์จะกลับเข้าสู่การล็อกดาวน์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้" รุตเทอแถลงข่าวทางโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์

ที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอน ประกาศภาวะ "สาธารณภัย" ในเมืองหลวงแห่งนี้เมื่อวันเสาร์ โดยระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่กรุงลอนดอนในช่วง 7 วันมีมากกว่า 65,000 คน โดยวันเสาร์มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26,418 รายในรอบ 24 ชั่วโมง เป็นสถิติสูงสุดนับแต่โควิดเริ่มระบาดที่เมืองหลวงแห่งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ของลอนดอนเป็นสายพันธุ์โอมิครอน

อังกฤษมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นสถิติใหม่ต่อเนื่อง 3 วันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทางการต้องใช้ข้อกำหนดใหม่ และมีรายงานว่ารัฐบาลกำลังพิจารณามาตรการล็อกดาวน์ด้วย

หน่วยงานด้านสาธารณสุขของเยอรมนีประกาศขึ้นบัญชีอังกฤษอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูงจากโควิด เริ่มมีผลนับแต่เที่ยงคืนของวันอาทิตย์ ซึ่งจะทำให้ผู้เดินทางจากอังกฤษต้องกักตัว 2 สัปดาห์ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตาม

ก่อนหน้านี้ เยอรมนีขึ้นบัญชีฝรั่งเศสและเดนมาร์กอยู่ในกลุ่มพื้นที่ความเสี่ยงสูงแล้วเช่นกัน ซึ่งทำให้ผู้ที่เดินทางจากสองประเทศนี้ต้องถูกกักกันโรคไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่

หลายประเทศหวนกลับมาใช้ข้อกำหนดควบคุมโรคที่เข้มงวดขึ้น คณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์ของฝรั่งเศสเรียกร้องให้รัฐบาลใช้ข้อกำหนดที่มีนัยสำคัญระหว่างเทศกาลปีใหม่ ขณะที่กรุงปารีสประกาศด้วยความเสียใจว่าจำเป็นต้องยกเลิกกิจกรรมทั้งหมดที่ประตูชัย ทางการไอร์แลนด์สั่งให้บาร์และร้านอาหารปิดในเวลา 20.00 น. เดนมาร์กปิดโรงภาพยนตร์และสถานที่อื่นๆ

ขณะเดียวกัน บางประเทศเร่งผลักดันโครงการฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นภูมิและขยายการฉีดวัคซีนถึงกลุ่มเด็กด้วย เช่นโปรตุเกสเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนฝรั่งเศสจะเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กในวันพุธหน้า

นอกจากยุโรป สหรัฐอเมริกาก็พบการระบาดของโอมิครอนแล้วใน 20 มลรัฐ และมีรายงานว่าพบผู้ติดไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วในอย่างน้อย 90 ประเทศ โดยกระทรวงสาธารณสุขของอิหร่านรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายแรกของประเทศ เป็นชาวอิหร่านจากกรุงเตหะราน มีผลตรวจเป็นบวกภายหลังเดินทางกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์.