การสื่อสารในฉนวนกาซาล่ม ขณะอิสราเอลยังคงตรวจค้นโรงพยาบาลอัล-ชิฟา

กองกำลังอิสราเอลปฎิบัติการตรวจค้นแบบอาคารต่ออาคารในโรงพยาบาลหลักของฉนวนกาซา ขณะที่การสื่อสารในพื้นที่เกิดความขัดข้องครั้งใหม่เมื่อวันศุกร์ เพิ่มความหวาดกลัวต่อพลเรือนชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ภายในสถานที่ดังกล่าว

เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอิสราเอลปล่อยพลุเหนือฉนวนกาซา จากทางตอนใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ท่ามกลางการสู้รบที่ดำเนินอยู่กับกลุ่มฮามาส (Photo by JACK GUEZ / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า กองกำลังอิสราเอลยังคงดำเนินปฎิบัติการตรวจค้นแบบอาคารต่ออาคารในโรงพยาบาลอัล-ชิฟาของฉนวนกาซา

โรงพยาบาลดังกล่าวกลายเป็นจุดศูนย์กลางการปะทะระหว่างอิสราเอลและฮามาสทางตอนเหนือ โดยทหารเริ่มบุกโจมตีอาคารแห่งนี้เมื่อวันพุธ เพื่อตามหาศูนย์บัญชาการที่พวกเขาเชื่อว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสปฏิบัติการอยู่ที่นั่น

แต่กลุ่มฮามาสและผู้อำนวยการโรงพยาบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และมีความกังวลจากนานาชาติเกี่ยวกับผู้คนหลายพันคน รวมถึงผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บและทารกคลอดก่อนกำหนดที่เชื่อว่าติดอยู่ข้างใน

ยังมีการพบเห็นควันดำหนาทึบลอยขึ้นในฉนวนกาซาตอนเหนือเมื่อวันศุกร์ โดยทางการอิสราเอลปกป้องปฏิบัติการของตนเอง และทหารออกมากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า พบปืนไรเฟิล, กระสุน, วัตถุระเบิด และทางเข้าปล่องอุโมงค์ที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ทำให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เชื่ออย่างจริงจังว่าตัวประกันอาจถูกควบคุมตัวที่สถานพยาบาลแห่งนี้

"เรามีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าตัวประกันถูกควบคุมตัวในโรงพยาบาลชิฟา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราจำเป็นต้องบุกเข้าไป และถ้าเราพบว่าพวกเขาอยู่ที่นั่น เราก็จะนำพวกเขาออกมาทันที" เนทันยาฮูกล่าว แม้ข้อกล่าวหาเหล่านี้ยังคงไม่ได้รับการพิสูจน์ความจริง

อิสราเอลยังระบุอีกว่า กองกำลังของตนกำลังค้นหาอาคารอัล-ชิฟา 'ทีละอาคาร' และกองทัพประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า สามารถเก็บกู้ศพของทหารหญิงวัย 19 ปีรายหนึ่งที่ถูกลักพาตัวไป ในบริเวณอาคารที่อยู่ติดกับโรงพยาบาล และกลุ่มทหารที่ประจำการใกล้โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ได้พบศพของหนึ่งในบรรดาตัวประกันอีกราย

กองทัพได้ยืนยันเมื่อต้นสัปดาห์ถึงการเสียชีวิตของทหารหญิงรายนี้โดยไม่แจ้งสาเหตุ ขณะที่ฮามาสกล่าวว่าเธอถูกสังหารจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอล

อย่างไรก็ตาม สัญญาณสื่อสารในฉนวนกาซาถูกตัดขาดอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ โดยผู้ให้บริการเครือข่ายระบุว่า โทรคมนาคมทั้งหมดหยุดทำงานเพราะแหล่งพลังงานที่ใช้สนับสนุนเครือข่ายหมดลง และยังไม่มีการอนุญาตให้นำเชื้อเพลิงเข้าไปในพื้นที่

สหประชาชาติเตือนว่า การขาดแคลนไฟฟ้าและเชื้อเพลิงจะทำให้พลเรือนได้รับความทุกข์ยาก จนส่งผลให้ความพยายามในการแจกจ่ายความช่วยเหลือมีความซับซ้อน และอาจนำไปสู่การปล้นสะดมสิ่งของต่างๆ

การเจรจาต่อรองเพื่อปล่อยตัวตัวประกันยังคงดำเนินต่อไป เพื่อแลกกับการหยุดการโจมตีชั่วคราว ตามข้อเสนอของกลุ่มฮามาส โดยมีกาตาร์และอียิปต์ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย

จนถึงขณะนี้ ปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลมุ่งเน้นไปที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา ซึ่งอิสราเอลได้ประกาศยึดอาคารรัฐสภา, สถานที่ราชการ สำนักงานใหญ่ตำรวจของกลุ่มฮามาส และท่าเรือสำคัญอีกหนึ่งแห่ง โดยมีโรงพยาบาลเป็นเป้าหมายหลัก เพราะมีการค้นพบอุโมงค์และอุปกรณ์ทางทหารที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา, รันติซี และอัลกุดส์

รัฐบาลวอชิงตันสนับสนุนข้อกล่าวหาของอิสราเอลที่ว่ากลุ่มฮามาสใช้โรงพยาบาลเป็นศูนย์บัญชาการ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ปฏิบัติการต่างๆต้องทำอย่างระมัดระวังอย่างยิ่งยวด

นอกจากสงครามในฉนวนกาซาแล้ว ยังมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความรุนแรงในเขตเวสต์แบงก์ โดยเมื่อวันพฤหัสบดี มือปืน 3 คนได้บุกโจมตีจุดตรวจที่มุ่งหน้าสู่กรุงเยรูซาเลม ทำให้ทหารอิสราเอล 1 นายเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 คน และในชั่วข้ามคืน กองทหารอิสราเอลจำนวนมากจึงบุกตอบโต้โจมตีค่ายผู้ลี้ภัยเจนินในเวสต์แบงก์

ในอีกด้านหนึ่ง อิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีเป้าหมายใกล้เมืองหลวงของซีเรียอีกครั้ง ตามรายงานของสำนักข่าวซีเรีย โดยการโจมตีดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหาย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

องค์กรในซีเรียเรียกร้องต่อรัฐบาลรัสเซีย ให้กดดัน 'อัสซาด' เปิดเผยที่ตั้งเรือนจำลับ

องค์กรคุ้มครองพลเรือนซีเรีย ‘หมวกขาว’ เรียกร้องให้มอสโกกดดัน บาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งมีรายงานว่าได้หลบหนีไปรัสเซีย เปิดเผยสถานที่คุมขั

อิสราเอลต้องการ 'ซีเรียในแบบอื่น'

หลังจากการโค่นล้มบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย กองทัพอิสราเอลได้ดำเนินการโจมตีเป้าหมายทางทหารในซีเรียรวมแล้วประมาณ 480 ครั้งนับตั้งแต่วั

กลุ่มกบฏยึดครองอเลปโปเบ็ดเสร็จ ‘อัสชาด’ ถึงขั้นขู่จะทำลายล้าง

ตามรายงานระบุว่า นักรบญิฮาดได้เข้ายึดเมืองอเลปโปของซีเรียเรียบร้อยแล้ว ด้านอิหร่านให้คำมั่นจะสนับสนุนระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาดต่อ