ไบเดนจับมือสีจิ้นผิง ให้คำมั่นผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างกัน

โจ ไบเดนได้พบสี จิ้นผิง ก่อนหน้าการประชุมเอเปกในแคลิฟอร์เนีย และให้คำมั่นร่วมกันว่าจะลดความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างมหาอำนาจทั้งสอง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ (ซ้าย) ทักทายประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ก่อนการประชุมระหว่างสัปดาห์ผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่เมืองวูดไซด์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน (Photo by Brendan SMIALOWSKI / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้พบกันเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปี พร้อมร่วมการประชุมสุดยอดที่ได้รับการจับตาทั่วโลก

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมการประชุมเอเปค 2023 ที่นครซานฟรานซิสโก ระหว่างวันที่ 11-17 พ.ย.นี้

โดยก่อนหน้าการประชุมดังกล่าว โจ ไบเดนได้เชิญผู้นำจีนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดนอกรอบระหว่างสองชาติมหาอำนาจ เพื่อหารือในหลายๆประเด็นที่ขัดแย้งกันในระยะหลัง

ผู้นำสหรัฐได้กล่าวกับผู้นำจีนและคณะผู้แทนว่า ขอให้สองชาติแข่งขันกันตามครรลองและไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง ขณะที่ผู้นำจีนตอบกลับว่า ดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดใหญ่มากพอสำหรับทั้งสองประเทศที่จะแบ่งปันความสำเร็จ

สองผู้นำของประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกไม่ได้พบปะกันด้วยตนเองนับตั้งแต่ที่พวกเขาจัดการเจรจาที่บาหลีเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 และความสัมพันธ์เริ่มถดถอยลงหลังจากสหรัฐฯ ยิงบอลลูนสอดแนมของจีนเมื่อต้นปี

ตั้งแต่นั้นมา รัฐบาลปักกิ่งและวอชิงตันได้ปะทะทางการทูตอย่างดุเดือด จนเกิดความตึงเครียดระดับนานาชาติในประเด็นต่างๆ เช่น ไต้หวัน, การคว่ำบาตร และการแย่งชิงผลประโยชน์ทางการค้า

การประชุมสุดยอดที่หลายคนตั้งตารอคอยนี้คาดว่าจะมีการทำข้อตกลงในการกลับมาประสานความร่วมมือด้านทหารระหว่างกัน รวมทั้งความพยายามในการลดการไหลเวียนของยาเฟนทานิลไปยังสหรัฐฯ

นอกจากนี้ อาจมีการหารือเกี่ยวกับความท้าทายระดับโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, ปัญญาประดิษฐ์ และปัญหาสิทธิมนุษยชน

แต่ผู้นำทั้งสองมีความชัดเจนว่า จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการประชุมในครั้งนี้คือ การบรรเทาความตึงเครียดที่เกิดขึ้นท่ามกลางการต่อสู้อันยาวนานเพื่อแย่งชิงความเป็นอันดับหนึ่งของโลกระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มอิทธิพลของตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

หลายฝ่ายยังคาดหวังให้สองผู้นำหาจุดร่วมในประเด็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส และสงครามยูเครน

ทางด้านรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของจีน ได้ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีกับการประชุมดังกล่าว และยกย่องว่าการเจรจานี้มีความสำคัญสำหรับทุกฝ่าย.

เพิ่มเพื่อน