กองกำลังอิสราเอลบุกโจมตีโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซาเมื่อวันพุธ โดยมุ่งเป้าไปที่สิ่งที่พวกเขากล่าวว่าเป็นศูนย์บัญชาการของกลุ่มฮามาสในเครือข่ายอุโมงค์ใต้อาคาร
สภาพการรักษาของแพทย์และผู้ป่วยในโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในกาซาซิตี ท่ามกลางการปะทะรุนแรงภายนอกระหว่างกองกำลังอิสราเอลและกลุ่มฮามาส (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า จากความเคลื่อนไหวของสถานการณ์การสู้รบในฉนวนกาซา ล่าสุดอิสราเอลส่งทหารบุกเข้าไปในโรงพยาบาลอัล-ชิฟา โดยมีเป้าหมายทำลายเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาส
ปฎิบัติการดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ป่วยและพลเรือนหลายพันคนที่กำลังหลบภัยจากการสู้รบ
ยุสเซฟ อาบู ริช เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาส ซึ่งอยู่ในโรงพยาบาล บอกกับเอเอฟพีว่า เขาเห็นรถถังและทหารคอมมานโดหลายสิบนายภายในอาคารฉุกเฉินและอาคารต้อนรับ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศและสหประชาชาติเข้าแทรกแซงทันทีและเร่งด่วน เพื่อหยุดปฏิบัติการจู่โจมของอิสราเอล
มีรายงานว่า ทหารอิสราเอลหลายสิบนายบุกเข้าไปพร้อมยิงปืนขึ้นฟ้า และสั่งผู้คนที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นชายไม่ให้ขัดขืน สอดรับกับข้อมูลของกองทัพที่ว่า ได้ปฏิบัติการอย่างแม่นยำและบรรลุเป้าหมายที่โรงพยาบาลแห่งนี้
กองทัพอิสราเอลอธิบายว่า ปฏิบัติการที่แม่นยำดังกล่าวมีเป้าหมายต่อกลุ่มฮามาสในพื้นที่ที่กำหนดของศูนย์การแพทย์แห่งนี้ แม้กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ได้มีฐานที่มั่นในโรงพยาบาล
อิสราเอลได้รับคำเตือนเด็ดขาดจากสหรัฐฯ และนานาชาติว่า โรงพยาบาลอัล-ชิฟาต้องได้รับการปกป้อง แต่ปฎิบัติการดังกล่าวก็ยังเกิดขึ้น ภายใต้ข้ออ้างความจำเป็น
องค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่า มีผู้ป่วย, เจ้าหน้าที่ และพลเรือนผู้พลัดถิ่นอย่างน้อย 2,300 คน อยู่ภายในโรงพยาบาลดังกล่าวและอาจไม่สามารถหลบหนีได้เนื่องจากภายนอกไม่ปลอดภัย
ผู้ประสบเหตุในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า สภาพภายในโรงพยาบาลนั้นน่าสยดสยอง โดยกระบวนการทางการแพทย์เกิดขึ้นโดยไม่มียาชา, ผู้คนที่มีอาหารหรือน้ำไม่เพียงพออาศัยอยู่ตามทางเดิน และกลิ่นศพเน่าเปื่อยลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศ
"มีศพเกลื่อนกลาดอยู่ในกลุ่มอาคารของโรงพยาบาล และไม่มีไฟฟ้าใช้ในห้องดับจิตอีกต่อไป" โมฮัมหมัด อาบู ซัลมิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล่าวเมื่อวันอังคาร ก่อนการบุกของอิสราเอล
สถานการณ์ในโรงพยาบาลอื่นๆ ของฉนวนกาซาก็ย่ำแย่เช่นกัน โดยองค์การอนามัยโลกระบุว่า โรงพยาบาล 22 แห่งจาก 36 แห่งไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากขาดเชื้อเพลิงเครื่องปั่นไฟที่เสียหายจากการสู้รบ
นอกจากนี้ โรงพยาบาล 14 แห่งที่ยังเปิดดำเนินการมีเวชภัณฑ์ไม่เพียงพอต่อการรองรับการผ่าตัดวิกฤตและช่วยชีวิต, ให้การดูแลผู้ป่วยใน รวมถึงการดูแลผู้ป่วยหนัก
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ให้คำมั่นว่าจะทำลายกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก เพื่อตอบโต้ที่โดนโจมตีก่อนจนมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 ราย รวมทั้งการจับตัวประกันอีกราว 240 คน
อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีกระแสตอบโต้อย่างรุนแรงจากปฏิบัติการครั้งนี้ จึงได้จัดเตรียมเส้นทางอพยพให้กับพลเรือน พร้อมประกาศให้กลุ่มฮามาสยุติปฏิบัติการทางทหารใดๆ ภายใน 12 ชั่วโมงและยอมมอบตัว
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นอกจากเส้นทางอพยพ ยังมีทีมแพทย์และล่ามภาษาอาหรับซึ่งได้รับการฝึกอบรมเฉพาะด้านเพื่ออำนวยความสะดวกในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนนี้ โดยมีจุดประสงค์ในการหลีกเลี่ยงอันตรายใด ๆ ต่อพลเรือนที่กลุ่มฮามาสใช้เป็นโล่มนุษย์
จนถึงขณะนี้ ผู้นำอิสราเอลปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้หยุดยิงในสงครามที่กินเวลานาน 5 สัปดาห์ จนกว่าตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัว
อาบู โอไบดา โฆษกฝ่ายทหารของกลุ่มฮามาสกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า อิสราเอลได้ขอให้ปล่อยตัวตัวประกัน 100 คน ในขณะที่กลุ่มติดอาวุธต้องการให้เด็กชาวปาเลสไตน์ 200 คน และผู้หญิง 75 คน เป็นอิสระจากเรือนจำของอิสราเอล
"เราแจ้งผู้ไกล่เกลี่ยว่าเราสามารถปล่อยตัวประกันได้หากได้รับข้อตกลงสงบศึก 5 วันและให้ความช่วยเหลือประชาชนของเราทุกคนทั่วฉนวนกาซา แต่ศัตรูกลับผัดวันประกันพรุ่ง" อาบู โอไบดา กล่าวในแถลงการณ์
มาเจด บิน โมฮัมเหม็ด อัล-อันซารี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ซึ่งกำลังช่วยดูแลการเจรจาเรื่องข้อตกลงตัวประกัน กล่าวว่า สถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงในฉนวนกาซากำลังขัดขวางความพยายามในการบรรลุข้อตกลง
ญาติของบรรดาตัวประกันเริ่มกดดันรัฐบาลอิสราเอลด้วยการเดินขบวนประท้วง 5 วันจากกรุงเทลอาวีฟไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีในกรุงเยรูซาเลม เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลอนุมัติข้อตกลงโดยเร็วที่สุดเพื่อนำตัวประกันทั้งหมดจากฉนวนกาซากลับบ้าน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่าโจมตีทางอากาศที่โรงพยาบาลแห่งสุดท้ายในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลยังคง “ใช้ระเบิ