นักรบจากกลุ่มชาติพันธุ์โจมตีกองกำลังความมั่นคงในรัฐยะไข่ของเมียนมาเป็นวันที่ 2 ในขณะที่การปะทะได้ขยายวงกว้างทั่วประเทศ
ชาวชาติพันธุ์อาระกันในรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา (Photo by Ye Aung Thu / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า นักรบของกองทัพอาระกัน (AA) ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในเมียนมา เพิ่มการโจมตีทางทหารในรัฐยะไข่เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
โดยกองทัพอาระกันยึดด่านหน้าของตำรวจชายแดนที่เมืองชินคาลี ในรัฐยะไข่เมื่อเช้าวันอังคาร และยังโจมตีด่านหน้าของทหารเมียนมาบนเนินเขาสองลูกในเมืองปาเลตวาของรัฐชินที่อยู่ใกล้เคียง
ในปาเลตวา กองทัพเมียนมาตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศและการยิงปืนใหญ่ และการสู้รบดำเนินต่อไปด้วยความรุนแรง พร้อมรายงานการเสียชีวิตของหญิง 2 ราย
กองทัพอาระกันต่อสู้ในสงครามเพื่อเอกราชของประชากรชาติพันธุ์ยะไข่มานานหลายปี เช่นเดียวกับในรัฐชิน
เมื่อวันจันทร์ นักรบอาระกันได้ปะทะกับกองกำลังความมั่นคงในเมืองระเต่ดอง, มองดอ และมีน-บยา และสามารถทำลายเครื่องบินรบ 6 ลำ พร้อมสังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้อีก 10 ราย ส่งผลให้เกิดการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาตามท้องถนนในเมืองซิตตเวของรัฐยะไข่ โดยตำรวจปิดถนนที่มุ่งหน้าไปสนามบินและศาลท้องถิ่น
เมื่อต้นเดือน นักรบอาระกันได้เปิดฉากรุกร่วมกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อีกสองกลุ่มทั่วพื้นที่ของรัฐฉานทางตอนเหนือใกล้ชายแดนจีน
กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA), กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA) ได้ปิดกั้นเส้นทางการค้าที่สำคัญสองเส้นทางไปยังจีน และยึดจุดผ่านแดนที่สำคัญได้
การสู้รบทางตอนเหนือ ซึ่งองค์การสหประชาชาติระบุว่าทำให้พลเรือนต้องพลัดถิ่นมากกว่า 50,000 คน ได้จุดชนวนให้เกิดความท้าทายทางทหารที่สำคัญที่สุดต่อรัฐบาลเผด็จการนับตั้งแต่ทำรัฐประหารยึดอำนาจในปี 2564
การปะทะกันเมื่อวันจันทร์ในรัฐยะไข่ทางตะวันตกมีขึ้นในขณะที่กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเรนนี (KNDF) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มต่อต้านรัฐประหารกล่าวว่า พวกเขากำลังต่อสู้กับทหารใกล้เมืองหลวงของรัฐกะยาทางตะวันออก ใกล้ชายแดนไทย ซึ่งรัฐบาลเผด็จการทหารได้โจมตีทางอากาศอย่างน้อยสามครั้งระหว่างการสู้รบที่เต็มไปด้วยความรุนแรง.