ความคืบหน้าล่าสุดในสงครามฉนวนกาซา

อิสราเอลส่งรถถังประชิดโรงพยาบาลอัล-ชิฟาซึ่งเป็นศูนย์กลางของการต่อสู้อันดุเดือดกับฮามาส โดยเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวเป็นฐานที่มั่นหลักของกลุ่มติดอาวุธ และมีเบาะแสของที่ซ่อนตัวประกันในโรงพยาบาลอีกแห่ง

ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นความเสียหายรอบๆ โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในกาซาซิตี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน (Photo by Satellite image ©2023 Maxar Technologies / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า การต่อสู้ดุเดือดในฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางความสูญเสียของพลเรือนทั้งสองฝ่ายกว่า 12,400 ราย และสถานการณ์ตัวประกัน 240 คนที่ยังไม่คลี่คลาย

ยุสเซฟ อาบู ริช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซาซึ่งบริหารโดยกลุ่มฮามาส กล่าวกับเอเอฟพีว่า โรงพยาบาลทุกแห่งทางตอนเหนือของดินแดนแห่งนี้ "ไม่สามารถใช้งานได้" ท่ามกลางการขาดแคลนเชื้อเพลิงและการรบพุ่งที่รุนแรง

มีรายงานทารกคลอดก่อนกำหนด 7 ราย และผู้ป่วย 29 รายเสียชีวิตในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ของกาซาซิตี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนปาเลสไตน์

ล่าสุด หลังจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักรอบๆ โรงพยาบาลดังกล่าวมาหลายวัน ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า รถถังและรถหุ้มเกราะของอิสราเอลได้เคลื่อนมาปิดล้อมอยู่ห่างเพียงไม่กี่เมตร

องค์การสหประชาชาติเชื่อว่า ผู้คนหลายพันหรืออาจจะมากกว่า 10,000 คน ทั้งผู้ป่วย, เจ้าหน้าที่ และพลเรือนผู้พลัดถิ่น อาจคิดอยู่ภายในวงล้อมและไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ เนื่องจากมีการต่อสู้อันดุเดือดในบริเวณใกล้เคียง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เรียกร้องอิสราเอลให้ละเว้นความข้องเกี่ยวกับโรงพยาบาล และยืนกรานว่าโรงพยาบาลต้องได้รับการปกป้อง

อัล-ชิฟาเป็นศูนย์กลางของการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล โดยอิสราเอลเชื่ออย่างมีหลักฐานว่ากลุ่มติดอาวุธดังกล่าวซ่อนตัวอยู่ในเครือข่ายอุโมงค์ใต้โรงพยาบาลแห่งนี้

แหล่งข่าวของกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ยังมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสจับตัวประกันไว้ที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งในกาซาซิตีด้วยเช่นกัน โดยพบสัญญาณบ่งชี้ว่าตัวประกันน่าจะถูกคุมขังไว้ที่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลเด็กอัล-รันติซี

อิสราเอลกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากนานาชาติที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับต้นทุนด้านมนุษยธรรมในการทำสงครามกับฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งหน่วยงานต่างประเทศกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อลดแรงกดดันดังกล่าว

"เรามีเวลาสองหรือสามสัปดาห์ก่อนที่แรงกดดันจากต่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้น แต่กระทรวงการต่างประเทศกำลังทำงานเพื่อขยายหน้าต่างแห่งความชอบธรรม และการต่อสู้จะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่จำเป็น" รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลกล่าวแถลง

ในส่วนปฎิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลมีความคืบหน้าไปอีกระยะ หลังจากรัฐมนตรีกลาโหมกล่าวว่า กลุ่มฮามาสสูญเสียการควบคุมในฉนวนกาซาแล้ว และกำลังหลบหนีไปทางทิศใต้

หน่วยงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ของสหประชาชาติเตือนว่า ปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาจะหยุดลงใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า เนื่องจากไม่มีความช่วยเหลือด้านเชื้อเพลิงเข้าไป โดยอ้างอิงถึงการปิดล้อมของอิสราเอลเกือบทั้งหมด ทำให้ไม่มีอาหาร, เชื้อเพลิง และเสบียงสำหรับการใช้ชีวิต

กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนและกองทัพอิสราเอล ยังคงโจมตีกันไปมาข้ามชายแดนเกือบทุกวันนับตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม และมีผู้เสียชีวิตรายวัน แม้ไม่มากเท่ากับฉนวนกาซา แต่หลายฝ่ายก็เกรงว่าสงครามอาจบานปลายจากจุดนี้เช่นกัน หากการสู้รบกับฮามาสสิ้นสุดลง

จนถึงตอนนี้ ผู้นำอิสราเอลยืนกรานว่าจะไม่มีการหยุดยิงจนกว่าตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัว แต่กาตาร์กำลังเป็นสื่อกลางในการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงที่เป็นไปได้ในการปล่อยตัวตัวประกัน

อาบู โอไบดา โฆษกฝ่ายทหารของกลุ่มฮามาส กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า มีการพูดคุยในข้อตกลงปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล 100 คน เพื่อแลกกับเด็กชาวปาเลสไตน์ 200 คนและผู้หญิง 75 คนที่ถูกคุมขังในเรือนจำอิสราเอล

"เราแจ้งผู้ไกล่เกลี่ย (กาตาร์) ว่าเราสามารถปล่อยตัวประกันได้หากได้รับข้อตกลงสงบศึก 5 วัน และให้ความช่วยเหลือประชาชนของเราทุกคนทั่วฉนวนกาซา แต่ศัตรู (อิสราเอล) กลับเพิกเฉยและผัดวันประกันพรุ่ง" โฆษกกลุ่มฮามาสกล่าว.

เพิ่มเพื่อน