อิสราเอลตกลงที่จะหยุดยิงชั่วคราวในแต่ละวัน เพื่อเปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างการรุกกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ภายหลังเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน (Photo by ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา เผยความเคลื่อนไหวล่าสุดในสงครามฉนวนกาซาว่า อิสราเอลยอมเปิดทางให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในแต่ละวัน ด้วยการหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 4 ชั่วโมงในฉนวนกาซาตอนเหนือ โดยจะมีการเตือนล่วงหน้า 3 ชั่วโมง
ไบเดนกดดันให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ทำการหยุดพักการโจมตีบ้าง หลังจากสงครามนานยืดเยื้อต่อเนื่องกว่าหนึ่งเดือน
ไบเดนกล่าวว่า อิสราเอลกำลังดำเนินการไปในทิศทางที่ถูกต้อง ที่จะช่วยให้พลเรือนหลบหนีจากการสู้รบและรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมในพื้นที่ประสบภัย
"เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่ผมได้พูดคุยกับผู้นำของอิสราเอลเกี่ยวกับความสำคัญของการหยุดชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรม ซึ่งจะช่วยให้พลเรือนสามารถหลบหนีไปยังพื้นที่ปลอดภัยห่างจากการสู้รบในฉนวนกาซา" ไบเดนกล่าว
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเคยยืนยันก่อนหน้านี้ว่าจะมีการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อเปิดทางสำหรับการอพยพของพลเรือนออกจากฉนวนกาซา
"อิสราเอลจะเริ่มบังคับใช้การหยุดยิงชั่วคราว 4 ชั่วโมงในพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาในแต่ละวัน โดยจะมีการประกาศล่วงหน้า 3 ชั่วโมง" เคอร์บีกล่าวกับผู้สื่อข่าว และเสริมว่า ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการพูดคุยตั้งแต่การเยือนอิสราเอลของแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดนับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจากฉนวนกาซา และสังหารผู้คนไป 1,400 ราย พร้อมจับตัวประกันไปอีกประมาณ 240 คน
อิสราเอลให้คำมั่นว่าจะทำลายล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก จึงตอบโต้ด้วยการทิ้งระเบิดทางอากาศและการรุกภาคพื้นดินที่เป็นสาเหตุให้ผู้คนในกาซาเสียชีวิตไปแล้วกว่า 10,800 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและเด็ก
สหประชาชาติประเมินว่า มีผู้คนประมาณ 1.5 ล้านคนที่กำลังแสวงหาความปลอดภัยในฉนวนกาซาตอนใต้
นานาชาติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับการประท้วงทั่วทุกมุมโลก รวมถึงการประท้วงหนักที่ทำเนียบขาวเมื่อสุดสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ไบเดนปฏิเสธความเป็นไปได้ในการหยุดยิงที่ยาวนานกว่านี้ในตอนนี้ หลังจากผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวถาม
เขายังกล่าวด้วยว่า เขายังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการปล่อยตัวตัวประกัน ซึ่งรวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ ประมาณ 10 คนที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซา
ไบเดนยืนหยัดเคียงข้างพันธมิตรสำคัญอย่างอิสราเอลนับตั้งแต่การถูกโจมตี โดยไปเยือนเทลอาวีฟในเดือนตุลาคม และกล่าวว่ากลุ่มฮามาสไม่ได้รับอนุญาตให้ควบคุมฉนวนกาซาอีกต่อไป
แต่เขาก็เรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตาม "กฎหมายสงคราม" ด้วยการหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน, ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และดำเนินการเพื่อนำตัวประกันออกมา
โดยส่วนตัวแล้ว รัฐบาลวอชิงตันกำลังกดดันอิสราเอลให้ควบคุมการโจมตีและอนุญาตให้มีการหยุดสู้รบชั่วคราว แต่อิสราเอลไม่ตอบรับ เพราะจะเป็นการแสดงท่าทียอมจำนนนซึ่งจะเข้าทางกลุ่มฮามาส
ขณะเดียวกัน ไบเดนได้เตือนอิหร่านและกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ไม่ให้ขยายความขัดแย้ง แต่การโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ โดยกลุ่มดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เพิ่มความตึงเครียดให้กับสถานการณ์สู้รบ จนทำให้รัฐบาลวอชิงตันสั่งการเครื่องบินรบของสหรัฐฯโจมตีครั้งใหม่ต่อโรงงานอาวุธที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านในซีเรียตะวันออกเมื่อวันพุธ และยืนยันว่าจะโจมตีอีกหากจำเป็น.
