รัสเซียเริ่มปฎิบัติการซ้อมรบร่วมทางเรือกับเมียนมา

ทัพเรือรัสเซียเตรียมพร้อมในปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับเมียนมา ถือเป็นการซ้อมรบร่วมครั้งแรกของทั้งสองประเทศที่มีความขัดแย้งกับชาติตะวันตก

มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารของเมียนมา ตรวจแถวทหารเรือของกองทัพรัสเซีย ก่อนการฝึกซ้อมทางทะเลร่วมกันที่ท่าเรือติลาวา ในกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน (Photo by Handout / MYANMAR MILITARY INFORMATION TEAM / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า พลเรือเอกนิโคไล เยฟเมนอฟ ผู้บัญชาการทหารเรือรัสเซียเข้าพบมิน อ่อง หล่าย หัวหน้ารัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนมา บนเรือพิฆาตแอดมิรัล ทริบุตส์ ของรัสเซีย และบรรยายสรุปให้เขาทราบเกี่ยวกับขีดความสามารถของเรือ ก่อนการซ้อมรบร่วมทางเรือที่มีกำหนดจะเริ่มในวันนี้

สื่อของเมียนมารายงานว่า การฝึกซ้อมทางทะเลร่วมกันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของทั้งสองประเทศที่มีความขัดแย้งกับชาติตะวันตกอยู่ในปัจจุบัน โดยการฝึกซ้อมด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับกองเรือแปซิฟิกของรัสเซียและกองทัพเรือของเมียนมาจะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายนในทะเลอันดามัน

ทั้งนี้ กองทัพเรือทั้งสองจะใช้เรือและเครื่องบินเพื่อฝึกซ้อมจำลองยุทธวิธีป้องกันอันตรายทางอากาศ, บนพื้นผิวน้ำและใต้น้ำ รวมทั้งมาตรการรักษาความปลอดภัยทางทะเล

รัฐบาลมอสโกเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของรัฐบาลเผด็จการทหาร โดยให้การสนับสนุนด้านอาวุธและทางการทูต ในขณะที่กองทัพเมียนมาต้องดิ้นรนสู้รบต่อเนื่องเพื่อบดขยี้กองกำลังติดอาวุธที่ต่อต้านรัฐบาล

ในเดือนกันยายน เมียนมาและรัสเซียเป็นประธานร่วมของการซ้อมรบ "ต่อต้านการก่อการร้าย" ที่จัดขึ้นในภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย ที่นำหลายประเทศจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มารวมตัวกัน

นับตั้งแต่ยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 รัฐบาลเผด็จการทหารได้นำเข้าอาวุธและยุทโธปกรณ์มูลค่า 406 ล้านดอลลาร์จากรัสเซีย ตามข้อมูลที่ได้จากผู้รายงานพิเศษประจำสหประชาชาติประจำเมียนมาเปิดเผยเมื่อเดือนพฤษภาคม

นอกจากนี้ มิน อ่อง หล่าย เดินทางไปรัสเซียหลายครั้งนับตั้งแต่ทำรัฐประหาร และได้พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อปีที่แล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯเตือน 9 จังหวัดภาคใต้มีฝนตกหนัก หวั่นเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ ฉบับที่ 4 (304/2567) (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567) มีใจความว่า