ความคืบหน้าล่าสุดในสงครามฉนวนกาซา

กองทัพอิสราเอลแบ่งพื้นที่สู้รบออกเป็นฉนวนกาซาทางใต้และฉนวนกาซาทางเหนือเพื่อมุ่งทำลายล้างฮามาสและละเว้นพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้อง ขณะที่การอพยพชาวต่างชาติถูกระงับชั่วคราว หลังการต่อรองล้มเหลว

ภาพการบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในเครื่องบินขนส่งสินค้าของกองทัพอากาศจอร์แดน เพื่อส่งเวชภัณฑ์ที่สำคัญไปยังโรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่งในฉนวนกาซา ตามพระบัญชาของกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน (Photo by Jordanian Armed Forces / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า การต่อสู้ดุเดือดในฉนวนกาซาเข้าสู่วันที่ 30 นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกโจมตีข้ามชายแดนอิสราเอล และเกิดการตอบโต้จากกองทัพอิสราเอล จนทั้งสองฝ่ายมีผู้เสียชีวิตรวมกันกว่า 11,170 ราย และตัวประกันถูกจับกุมอีก 240 คน

กองทัพอิสราเอลกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า การโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาได้แยกดินแดนปาเลสไตน์ออกเป็นสองส่วน โดยการโจมตีหลักยังคงมุ่งทำลายล้างกลุ่มฮามาสเท่านั้น ซึ่งโฆษกกองทัพกล่าวว่า ทหารได้ล้อมเมืองกาซาซิตี้ไว้แล้ว และแบ่งพื้นที่สู้รบเป็นฉนวนกาซาทางใต้และฉนวนกาซาทางเหนือ

เมื่อเย็นวันอาทิตย์ กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาอ้างว่า อิสราเอลโจมตีอย่างรุนแรงรอบๆ โรงพยาบาลหลายแห่งทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เพียงไม่นานหลังจากระบบโทรคมนาคมถูกตัดในพื้นที่เป็นครั้งที่สาม

กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 รายจากการทิ้งระเบิดค่ายผู้ลี้ภัยอัล-มากาซีในฉนวนกาซาตอนกลางเมื่อค่ำวันเสาร์ โดยอ้างว่าเป็นฝีมืออิสราเอล แต่อิสราเอลขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่า กองทหารของตนปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ในขณะนั้นหรือไม่

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เยือนกรุงแบกแดดอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเขาได้พบกับนายกรัฐมนตรีโมฮาเหม็ด ชีอะห์ อัล-ซูดานี ของอิรัก เพื่อหารือเกี่ยวกับความเสี่ยงที่สงครามของอิสราเอลกับฮามาสจะบานปลาย

การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการโจมตีด้วยจรวดและโดรนที่มุ่งเป้าไปที่ฐานทัพอิรักซึ่งมีกองทหารอเมริกันประจำการอยู่

ก่อนหน้านี้ บลิงเคนเพิ่งเยือนเขตเวสต์แบงก์เพื่อพบกับประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์ ซึ่งประณามการ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ของอิสราเอลในฉนวนกาซาท่ามกลางสงครามกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส

นอกจากนี้ บลิงเคนยังเยือนไซปรัสและพบกับประธานาธิบดีนีโคส คริสโตดูลิดีส เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของทางเดินช่วยเหลือทางทะเลจากดินแดนแห่งนี้ไปยังฉนวนกาซา

สำนักข่าวอย่างเป็นทางการของเลบานอนรายงานว่า ญาติ 4 รายของนักข่าวคนหนึ่งเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์จากการโจมตีของอิสราเอลทางตอนใต้ของเลบานอน พร้อมเสริมว่านักข่าวคนดังกล่าวก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนกล่าวว่าได้ยิงจรวดคัตยูชาเข้าใส่เมืองเคอร์ยัต ชโมนา ทางตอนเหนือของอิสราเอล เพื่อตอบสนองต่ออาชญากรรมชั่วร้ายดังกล่าว จนมีพลเรือนอิสราเอลเสียชีวิต 1 ราย

ล่าสุด กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาระงับการอพยพของผู้ถือหนังสือเดินทางต่างชาติไปยังอียิปต์เป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากอิสราเอลปฏิเสธที่จะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับบาดเจ็บบางคนได้รับการอพยพ

ทำเนียบขาวระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่า ชาวอเมริกันและพลเมืองสหรัฐผู้อยู่อาศัยในกาซาพร้อมครอบครัวมากกว่า 300 คน ได้อพยพออกจากฉนวนกาซาแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน

บรรดาหัวหน้าหน่วยงานสำคัญของสหประชาชาติออกแถลงการณ์ร่วมที่แสดงความไม่พอใจต่อจำนวนผู้เสียชีวิตของพลเรือนในฉนวนกาซา และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมโดยทันที ในสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส

แถลงการณ์ของสหประชาชาติ โดยหัวหน้าขององค์กร 18 แห่ง รวมถึงยูนิเซฟ, โครงการอาหารโลก และองค์การอนามัยโลก กล่าวถึงยอดผู้เสียชีวิตที่น่าสยดสยองของทั้งสองฝ่ายนับตั้งแต่การโจมตีข้ามพรมแดนของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และระบุว่า "ประชากรทั้งหมดถูกปิดล้อมและถูกโจมตี, ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอด, ถูกทิ้งระเบิดในบ้าน, ที่พักพิง, โรงพยาบาล และสถานที่ทางศาสนาของพวกเขา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้"

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องกลุ่มฮามาสให้ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมด และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเคารพพันธกรณีของตนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศในขณะที่สงครามยังคงดุเดือด

"เราต้องการการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมโดยทันที ผ่านมา 30 วันแล้ว มันมากเกินพอแล้ว เรื่องนี้ต้องหยุดเดี๋ยวนี้" คำแถลงระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.ปณิธาน วิเคราะห์สถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลตอบโต้กลับอิหร่าน 

รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และการต่างประเทศ  โพสต์คลิปสัมภาษณ์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความว่า  อิสราเอลแถลงว่าการโจมตีอิหร่านสิ้นสุดลงแล้ว (พรุ่งนี้ต้องจับตาดูการเจรจาหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันรอบใหม่ระหว่างฮามาสและอิสราเอลที่ Doha)