ผู้นำฝรั่งเศสเยือนเอเชียกลาง เรียกร้องกระชับความร่วมมือเพิ่มมากขึ้น

ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเยือนคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน พร้อมเพิ่มเติมความร่วมมือกับดินแดนเอเชียกลางแข่งมหาอำนาจชาติอื่นๆ

ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส (ซ้าย) และประธานาธิบดีคาซึม-โยมาร์ต โตคาเยฟ ของคาซัคสถาน จับมือกันที่กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน (Photo by Handout / KAZAKHSTAN'S PRESIDENTIAL PRESS SERVICE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เดินทางเยือนประเทศคาซัคสถานซึ่งเป็นกำลังเป็นที่หมายปองของมหาอำนาจหลายชาติ

มาครงจะปฏิบัติภารกิจกระชับความร่วมมือระหว่างการเยือนภูมิภาคที่อุดมไปด้วยทรัพยากรเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งรัสเซีย, จีน, ตุรเคีย และยุโรปต่างกำลังแย่งชิงอิทธิพลกันในภูมิภาคนี้

"ความแข็งแกร่งทางความร่วมมือของเรา แสดงให้เห็นถึงทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่ดีที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และความจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมและเร่งดำเนินการ ซึ่งเป็นความหมายโดยรวมของการเยือนครั้งนี้" มาครงกล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน

ประธานาธิบดีคาซึม-โยมาร์ต โตคาเยฟ ของคาซัคสถาน กล่าวว่า เขายกย่องฝรั่งเศสเป็นพันธมิตรที่สำคัญและเชื่อถือได้ในสหภาพยุโรป และเขาต้องการให้ความร่วมมือระหว่างกันเป็นแรงผลักดันพิเศษ

ผู้นำทั้งสองได้ลงนามในสัญญาหลายฉบับในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่แร่ธาตุและพลังงาน ไปจนถึงเภสัชภัณฑ์, การบิน และอวกาศ

EDF บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสกำลังดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของคาซัคสถาน ซึ่งเป็นโครงการที่มีกำหนดลงประชามติในปีนี้

อีกทั้ง ประเด็นแร่ธาตุสำคัญสำหรับเทคโนโลยีพลังงานสะอาดซึ่งมีอยู่มากมายในภูมิภาค เป็นส่วนสำคัญของการเจรจาในครั้งนี้ โดยมีหัวเรือใหญ่จากบริษัทยูเรเนียม 'Orano' ของฝรั่งเศส ซึ่งมีเหมืองในคาซัคสถานอยู่แล้ว อยู่ในคณะผู้แทนของมาครงด้วยเช่นกัน

ปัจจุบัน ฝรั่งเศสเป็นผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับ 5 ในคาซัคสถาน แซงหน้าจีน โดยสาเหตุหลักมาจากการมีส่วนร่วมของ TotalEnergies ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานในโครงการแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่ง Kashagan ในเขตทะเลแคสเปียนของคาซัคสถาน

มูลค่าการค้าระหว่างฝรั่งเศสและคาซัคสถานสูงถึง 5,300 ล้านยูโร (ประมาณ 200,000 ล้านบาท) ในปี 2565 และคาซัคสถานเป็นผู้จัดหายูเรเนียมประมาณ 40% จากความต้องการยูเรเนียมทั้งหมดของฝรั่งเศส

เอเชียกลางซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซียมายาวนานและเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากมหาอำนาจอื่นๆ ในขณะที่รัฐบาลมอสโกกำลังเผชิญกับสงครามในยูเครน

หลังจากนี้ ผู้นำฝรั่งเศสจะเดินทางไปยังอุซเบกิสถานซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน เพื่อเพิ่มความพยายามในการทำให้สถานะทางการเมืองและเศรษฐกิจของฝรั่งเศสอยู่ในภูมิภาคที่อุดมไปด้วยพลังงาน

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสหลายคนเคยเยือนคาซัคสถานมาแล้วนับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่มาครงจะเป็นคนแรกที่ไปเยือนอุซเบกิสถานนับตั้งแต่ปี 2537

จีนมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษในเอเชียกลางด้วยโครงการ "เส้นทางสายไหมใหม่" ขณะที่ยุโรปและตุรเคียก็แสดงความสนใจภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยนายกรัฐมนตรีของฮังการีและประธานาธิบดีของตุรเคีย ก็มีกำหนดเยือนกรุงอัสตานาในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ต่อจากมาครง

ทั้งคาซัคสถานและอุซเบกิสถานต่างตั้งเป้าที่จะเปิดกว้างทางเศรษฐกิจมากขึ้น รวมไปถึงการสร้างสมดุลทางการทูต แม้ว่ารัสเซียจะยังคงเป็นพันธมิตรหลักของพวกเขาก็ตาม ส่วนทางด้านการเปิดเสรีทางการเมืองนั้น ทั้งสองประเทศในเอเชียกลางยังคงปกครองในรูปแบบรัฐเผด็จการซึ่งทุกๆการชุมนุมประท้วงมักถูกปราบปรามอย่างรุนแรง.

เพิ่มเพื่อน