โจ ไบเดนจะเดินทางเยือนอิสราเอลเพื่อแสดงจุดยืนในฐานะพันธมิตรเหนียวแน่น และหวังเกลี้ยกล่อมไม่ให้เกิดความรุนแรงลุกลามไปทั่วตะวันออกกลาง ขณะที่อิหร่านเตือนให้หยุดบุกกาซา ไม่เช่นนั้นจะแทรกแซง
โฆษกฝ่ายทหารของกลุ่มฮามาส ออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ระบุว่าตัวประกันชาวต่างชาติบางคนจะถูกปล่อยตัว หากเงื่อนไขที่เรียกร้องได้รับการตอบสนองแล้วเท่านั้น พร้อมแสดงภาพตัวประกันชาวฝรั่งเศส-อิสราเอลที่ถูกจองจำ (Photo by HAMAS MEDIA OFFICE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนอิสราเอลในวันพุธเพื่อแสดงการสนับสนุนในฐานะพันธมิตรเหนียวแน่น ในขณะที่รัฐบาลวอชิงตันพยายามป้องกันไม่ให้สงครามกับฮามาสทวีความรุนแรงขึ้นในฉนวนกาซา ซึ่งอาจส่งผลลุกลามไปสู่ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง
สถานการณ์ความสูญเสียล่าสุด อิสราเอลสูญเสียผู้คนไปกว่า 1,400 รายแล้วจากการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินตลอด 12 วันที่ผ่านมาโดยฝีมือกลุ่มฮามาส ขณะที่ผู้คนในฉนวนกาซาโดนโจมตีคืนโดยกองกำลังอิสราเอล สูญเสียชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 2,700 รายเช่นกัน
อิสราเอลให้คำมั่นว่าจะทำลายกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก และจะพยายามช่วยเหลือตัวประกันจำนวน 199 คนที่ถูกจับตัวไปในฉนวนกาซา
โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวเมื่อวันอังคารว่า กองกำลังของตนจะเริ่มกิจกรรมทางทหารที่ได้รับการเตรียมพร้อม เมื่อจังหวะเวลาเหมาะสมกับเป้าหมาย และออกตัวว่า หากตัวประกันเสียชีวิต ถือป็นความรับผิดชอบของกลุ่มฮามาส
ชาวอิสราเอลยังคงรู้สึกไม่สบายใจจากการโจมตีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของประเทศ ซึ่งทำให้เกิดการระดมพลกองหนุนจำนวนมาก และการอพยพประชาชนประมาณ 500,000 คนออกจากพื้นที่ใกล้ฉนวนกาซาและเลบานอน
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งประจำการอยู่ก่อนแล้วในอิสราเอล กล่าวว่าการเยือนของไบเดนจะเป็นการแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับอิสราเอลและความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งต่อการสร้างสันติภาพอย่างมั่นคง นอกจากนี้สหรัฐฯยังประจำการเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เพื่อยับยั้งการกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่ออิสราเอล
อิหร่านซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล เตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ให้ทำการรุกรานฉนวนกาซา และพร้อมเข้าแทรกแซง หากอิสราเอลยังคงทิ้งระเบิดฉนวนกาซาต่อไป
แม้สหรัฐส่งสัญญาณสนับสนุน แต่อีกด้านหนึ่งไบเดนก็พยายามจะควบคุมการตอบสนองทางทหารของอิสราเอลอย่างเงียบๆ เช่นกัน ในขณะที่นานาชาติเริ่มกังวลเกี่ยวกับผลกระทบร้ายแรงของสงครามต่อพลเรือนชาวปาเลสไตน์
ชาวปาเลสไตน์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนถูกสังหารในพื้นที่ปิดตายที่ถูกเผาทำลาย ขณะผู้รอดชีวิตมีอาหาร, น้ำ และเชื้อเพลิงเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่นับสภาพจิตใจที่ย่อยยับจากการเฝ้าดูญาติและเพื่อนพ้องตายต่อหน้าต่อตา กับบรรยากาศเมืองที่เต็มไปด้วยเลือดและกลิ่นคนตายอยู่ทุกหนทุกแห่ง
หน่วยงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ของสหประชาชาติ ระบุว่า ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 1 ล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรกาซาทั้งหมด 2.4 ล้านคน ได้หลบหนีกระจัดกระจายออกจากพื้นที่ไปแล้วโดยไม่รู้จุดหมาย พร้อมเตือนว่ากาซากำลังมุ่งสู่หายนะที่แท้จริง
ก่อนหน้านี้ อิสราเอลเรียกร้องให้ผู้อยู่อาศัยในฉนวนกาซาตอนเหนืออพยพหนีไปทางใต้ โดยหวังว่าจะเคลียร์พื้นที่ของพลเรือนได้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีภาคพื้นดินที่เต็มไปด้วยอันตราย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการสู้รบยาวนานในเมืองแห่งนี้
จนถึงขณะนี้ อียิปต์ยังคงปิดจุดผ่านแดนเพียงแห่งเดียวในกาซาซึ่งไม่ได้ถูกควบคุมโดยอิสราเอล ทำให้ขัดขวางการลี้ภัยของชาวปาเลสไตน์-อเมริกันหลายพันคนที่หวังจะหนีออกจากฉนวนกาซา และปิดกั้นการขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ต้องการเข้าไปยังพื้นที่สู้รบเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ปัจจุบัน ยังคงมีพลเมืองติดอยู่ในพื้นที่ ซึ่งประเทศอาหรับที่อยู่ใกล้เคียงก็กังวลเช่นกันว่าหากชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนนี้ไปแล้ว พวกเขาอาจถูกเนรเทศอย่างถาวร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่าโจมตีทางอากาศที่โรงพยาบาลแห่งสุดท้ายในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลยังคง “ใช้ระเบิ