ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาทยอยหลบหนีออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่อิสราเอลตั้งกองกำลังภาคพื้นดินพร้อมบุกเต็มอัตราศึกทันทีที่ได้รับไฟเขียว
กลุ่มผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์นั่งรอข้ามเข้าไปในอียิปต์ ที่จุดผ่านแดนราฟาห์ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนแห่งเดียวระหว่างอียิปต์และฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม (Photo by SAID KHATIB / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า กองกำลังอิสราเอลพร้อมแล้วสำหรับการบุกภาคพื้นดินอย่างเต็มตัวในฉนวนกาซา เพื่อภารกิจทำลายกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก รอเพียงการสั่งการจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู
ในช่วงแปดวันนับตั้งแต่นักรบกลุ่มฮามาสสังหารผู้คนอิสราเอลไปมากกว่า 1,300 ราย อิสราเอลได้ตอบโต้ด้วยการทิ้งระเบิดทำลายล้างที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 2,300 รายในฉนวนกาซา
ความหวาดกลัวและความสับสนวุ่นวายครอบงำอยู่ในพื้นที่เล็กๆขนาดความยาว 40 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อีกทั้งการปิดล้อมของอิสราเอลยังเร่งเร้าให้ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นเร่งหนีตายโดยไม่มีจุดหมายที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง
อาคารของเมืองกาซาทั้งหมดเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง และโรงพยาบาลก็เต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บหลายพันคนในพื้นที่ที่ความหวาดกลัวเข้าปกคุลมอย่างต่อเนื่อง
อิสราเอลผู้สูญเสียและโกรธเคืองได้ระดมกำลังจำนวนมากนอกเขตแดนเพื่อเตรียมการโจมตีทางบก, ทางอากาศ และทางทะเล อีกทั้งยังได้ส่งทหารและรถถังประจำการบนชายแดนทางตอนเหนือติดกับเลบานอนที่มีการโจมตีข้ามพรมแดนกันไปมากับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อีกหลายครั้ง
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เดินทางเยือนกองทหารแนวหน้าทางตอนใต้ใกล้ฉนวนกาซาเมื่อวันเสาร์ เพื่อให้กำลังใจทหารและเตรียมบัญชาการด้วยตัวเอง
ก่อนหน้านี้ อิสราเอลส่งกองกำลังพิเศษบุกโจมตีฉนวนกาซาและเก็บศพตัวประกันบางส่วนจากทั้งหมด 120 คนที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมได้ ขณะที่กลุ่มฮามาสอ้างว่ามีผู้เสียชีวิต 22 รายจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
การบุกรุกภาคพื้นดินในฉนวนกาซามุ่งเป้าทำลายฐานปฏิบัติการของกลุ่มฮามาสที่ถูกพูดถึงว่าเป็นเครือข่ายอุโมงค์อันกว้างใหญ่
ไม่กี่วันก่อน อิสราเอลได้เตือนชาวปาเลสไตน์ 1.1 ล้านคนให้อพยพออกจากทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ซึ่งประชาชนจำนวนมากก็ได้หลบออกจากพื้นที่ทันทีทั้งทางรถยนต์, รถบรรทุก, เกวียน และการเดินเท้าไปทางใต้นับตั้งแต่นั้นมา และมีการกล่าวหากลุ่มฮามาสที่ขัดขวางชาวเมืองไม่ให้หลบหนีออกจากพื้นที่ว่า ต้องการใช้พลเรือนเหล่านั้นเป็น "โล่มนุษย์"
ความตื่นตระหนกเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ซึ่งอิสราเอลได้ตัดน้ำ, อาหาร และไฟฟ้า โดยให้คำมั่นว่าจะปิดล้อมอย่างสมบูรณ์จนกว่าตัวประกันทั้งหมดจะถูกปล่อยตัว
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนกล่าวหาว่าการกระทำของอิสราเอล "เกินขอบเขตการป้องกันตนเอง" และกล่าวว่าจะต้อง "ยุติการลงโทษแบบเหมารวมต่อประชาชนในฉนวนกาซา"
ขณะที่พลเมืองอิสราเอลบางส่วนก็เดินหน้าอพยพออกจากเมืองทางตอนใต้ที่เป็นเป้าหมายในการโจมตีของกลุ่มฮามาส เช่นกัน
อียิปต์พยายามเปิดช่องทางให้พลเรือนได้อพยพข้ามฉนวนกาซา แต่ปฏิเสธการอพยพของพลเมืองจากชาติอื่น เว้นแต่จะเดินทางมากับขบวนรถช่วยเหลือเท่านั้น
ความโกรธได้ปะทุขึ้นในโลกมุสลิมในบริเวณต่างๆทั่วโลก โดยผู้ประท้วงที่สนับสนุนปาเลสไตน์แสดงสัญลักษณ์ด้วยการเผาธงชาติอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา.