พรรคอนุรักษนิยมคว้าชัยเลือกตั้งนิวซีแลนด์ ฮิปกินส์ยอมรับความพ่ายแพ้

ชาวนิวซีแลนด์เทคะแนนเสียงเลือกรัฐบาลอนุรักษนิยมชุดใหม่เมื่อวันเสาร์ โดยนายกรัฐมนตรีคริส ฮิปกินส์ ยอมรับว่าการครองอำนาจนาน 6 ปีของพรรคแรงงาน สิ้นสุดลงแล้ว

คริสโตเฟอร์ ลักสัน หัวหน้าพรรคชาตินิวซีแลนด์ กล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุนของเขา หลังได้รับเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งทั่วไปของนิวซีแลนด์ และเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 42 ของประเทศ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม (Photo by Ivan Tarlton / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า นิวซีแลนด์ปิดคูหาการเลือกตั้งทั่วไปในวันนี้ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีคริส ฮิปกินส์ ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำสมัยที่ 3 ในฐานะตัวแทนจากพรรคแรงงานฝ่ายซ้าย และคริสโตเฟอร์ ลักสัน จากพรรคอนุรักษนิยมฝ่ายขวาเป็นคู่แข่งที่สูสี

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการปรากฏว่าพรรคชาตินิวซีแลนด์และพรรคเอซีที ซึ่งเป็นพันธมิตรแนวร่วมอนุรักษนิยมฝ่ายขวากวาดไปได้ 61 ที่นั่ง โดยได้รับคะแนนเสียงถึง 97% ซึ่งมากพอที่จะเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา 120 ที่นั่งของนิวซีแลนด์

นายกรัฐมนตรีคริส ฮิปกินส์ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศในเดือนมกราคมที่ผ่านมาต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงจาซินดา อาร์เดิร์น ยอมรับว่าการครองอำนาจนาน 6 ปีของพรรคแรงงานฝ่ายซ้ายของเขานั้นสิ้นสุดลงแล้ว

ฮิปกินส์กล่าวว่า เขาไม่อยู่ในฐานะที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้อีก และขอแสดงความยินดีกับคริสโตเฟอร์ ลักสัน ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป

"ผลลัพธ์ในคืนนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการ แต่ผมอยากให้ทุกคนภูมิใจกับสิ่งที่เราประสบความสำเร็จตลอด 6 ปีที่ผ่านมา" ฮิปกินส์กล่าวต่อผู้สนับสนุนพรรคแรงงานในเวลลิงตัน

ขณะที่คริสโตเฟอร์ ลักสันซึ่งได้รับชัยชนะถล่มทลาย กล่าวแถลงว่า "จากการนับคะแนนล่าสุดดูเหมือนว่า พรรคชาตินิวซีแลนด์และพรรคเอซีทีจะอยู่ในตำแหน่งที่เป็นฝ่ายได้จัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไป"

อดีตผู้บริหารสายการบินรายนี้ยังกล่าวอีกว่า "ชาวนิวซีแลนด์แสดงออกถึงความปรารถนา และลงคะแนนเสียงให้กับการเปลี่ยนแปลง"

การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งถูกครอบงำโดยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากมากขึ้น และค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวนิวซีแลนด์อย่างหนัก และพรรคชาตินิวซีแลนด์ให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งมอบความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการบรรเทาภาษีให้กับชาวนิวซีแลนด์ทุกคน

ว่าที่นายกฯคนใหม่ วัย 53 ปีรายนี้ ประสบความสำเร็จทางการเมืองอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่เมื่อ 4 ปีที่แล้วเขายังทำงานอยู่ในภาคเอกชนอยู่เลย

ลักสันใช้เวลา 7 ปีในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของแอร์นิวซีแลนด์ และเมื่อผันตัวเข้าสู่การเมืองในปี 2562 ก็ได้รับการยกย่องว่าจะเป็นผู้นำยุคใหม่ในอนาคต

ในช่วง 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่ง ว่าที่ผู้นำรัฐบาลอนุรักษนิยมวางแผนปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายของเยาวชน, การห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียน และยกเลิกการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงของอดีตรัฐบาลพรรคแรงงานที่เตรียมการไว้ก่อนการเลือกตั้ง

"ชาวนิวซีแลนด์จะตื่นขึ้นมาไม่เพียงแต่เพื่อพบกับวันใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคำมั่นสัญญาของรัฐบาลใหม่และทิศทางใหม่ด้วย" ลักสันกล่าวกับผู้สนับสนุนในโอ๊คแลนด์ และเสริมว่า "ผมแทบรอไม่ไหวที่จะได้เริ่มทำงาน เพราะนิวซีแลนด์ต้องการการเปลี่ยนแปลงทันที และเราจะทำให้ประเทศนี้กลับมาอยู่ในเส้นทางเดิม"

ทั้งลักสันและฮิปกินส์พยายามโน้มน้าวผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วยคำสัญญาว่าจะลดราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น, แก้ไขปัญหาเรื้อรังด้านการขาดแคลนที่อยู่อาศัย และระงับการขึ้นราคาสินค้าบริโภค

"เราจะลดต้นทุนการครองชีพ เราจะฟื้นฟูกฎหมายและความสงบเรียบร้อย เราจะส่งมอบการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น และเราจะให้ความรู้แก่ลูกหลานของเรา เพื่อที่พวกเขาจะได้เติบโตขึ้นมาใช้ชีวิตตามที่พวกเขาใฝ่ฝัน" ลักสันประกาศต่อมวลชน

พรรคแรงงานซึ่งคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายภายใต้การนำของอาร์เดิร์นในปี 2563 กำลังเผชิญกับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งอันสาหัสที่สุดครั้งหนึ่ง โดยคาดการณ์ว่าจะคว้าที่นั่งในสภาได้เพียง 34 ที่นั่งเท่านั้น.