ชาวปาเลสไตน์เร่งลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลังอิสราเอลเตือนซ้ำให้อพยพออกจากฉนวนกาซาทางตอนเหนือ เพื่อปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินต่อกลุ่มฮามาส จากสงครามต่อเนื่องเป็นวันที่ 8
ชาวปาเลสไตน์อุ้มเด็กวิ่งหลบหนีการโจมตีของอิสราเอลที่เมือง Khan Yunis ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ขณะที่การต่อสู้ระหว่างอิสราเอลและฮามาสยังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่แปดติดต่อกัน (Photo by YASSER QUDIH / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า หลังจากการโจมตีที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล กองกำลังภาคพื้นดินซึ่งรวมตัวกันใกล้ฉนวนกาซาได้เริ่มจู่โจม "เฉพาะจุด" เข้าไปในเมืองที่ถูกปิดล้อม เพื่อทำลายพื้นที่ซ่องสุมกำลังของผู้ก่อการร้าย และพยายามค้นหาบุคคลที่สูญหาย
กลุ่มติดอาวุธฮามาสเริ่มปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว และคร่าชีวิตพลเรือนไปมากกว่า 1,300 ราย พร้อมจับตัวประกันไปกว่า 120 คน ตามตัวเลขของรัฐบาลที่ยกระดับการก่อการร้ายครั้งนี้เทียบเท่ากับเหตุการณ์ 9/11 ในสหรัฐอเมริกา
ในการตอบโต้ อิสราเอลโจมตีเป้าหมายในฉนวนกาซาด้วยการโจมตีหลายพันครั้ง ส่งผลให้มีชาวกาซาเสียชีวิตอย่างน้อย 1,900 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และรวมถึงเด็กมากกว่า 600 คน ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่กาซาซึ่งมีประชากรราว 2.4 ล้านคน
การโจมตีของกลุ่มฮามาสได้พลิกผันการเมืองในตะวันออกกลาง กระตุ้นให้สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สงครามขยายวงกว้างขึ้น
สหประชาชาติ, กลุ่มประเทศอาหรับ และประเทศอื่นๆ ตอบโต้ด้วยความกังวลต่อคำสั่งอพยพของกองทัพอิสราเอล เนื่องจากชาวกาซาในพื้นที่ไม่มีหนทางให้หนีออกไป เพราะทางออกจากดินแดนไปยังอียิปต์และอิสราเอลถูกปิด ขณะที่เสบียงเริ่มร่ยหรอกแล้ว ทั้งอาหาร, น้ำ, ไฟฟ้า, การรักษาพยาบาล และการสื่อสาร
อย่างไรก็ตาม ชาวกาซาบางรายเลือกอยู่ตามถนนที่เต็มไปด้วยเศษหินหลังจากจรวดและกระสุนปืนใหญ่ทำลายอาคารมากกว่า 1,300 หลังในพื้นที่ เพราะไม่ต้องการลี้ภัยไปเรื่อยๆ
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เตือนว่าจนถึงขณะนี้การโจมตีด้วยระเบิดดังกล่าวเป็นเพียง "จุดเริ่มต้น" ของการบดขยี้กลุ่มฮามาสให้สิ้นซากตามที่ได้เคยปฏิญาณไว้
กองทัพอิสราเอลประกาศการเสียชีวิตของมูราด อาบู มูราด ผู้บัญชาการทหารอาวุโสของกลุ่มฮามาส จากการถูกโจมตีทางอากาศ ซึ่งกลุ่มฮามาสไม่ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าว แต่ได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่าสมาชิกอาวุโส 2 คนจากสำนักการเมืองของกลุ่มฮามาส ถูกสังหารในการโจมตีของอิสราเอล
รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีประณามกลุ่มฮามาสว่าใช้พลเรือนเป็น "เกราะกำบัง" ในฉนวนกาซา ขณะที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ให้สัญญากับครอบครัวชาวอเมริกัน 14 คนที่สูญหายตั้งแต่การโจมตีของกลุ่มฮามาสว่า "เราจะทำทุกอย่างเพื่อค้นหาพวกเขา" และเน้นย้ำว่าการจัดการกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เพิ่มขึ้นในฉนวนกาซาถือเป็นเรื่อง "สำคัญที่สุด"
จนถึงขณะนี้กองทัพอิสราเอลยืนยันว่าได้ติดต่อกับครอบครัวของตัวประกันพลเรือน 120 คนแล้ว โดยตัวเลขนี้ได้รับการปรับลงจากยอดก่อนหน้าที่เคยระบุว่ามีตัวประกันถูกจับกุม 150 คน
ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นทั่วตะวันออกกลางและในประเทศอื่นๆ จากการประท้วงอย่างโกรธเคืองเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ในขณะที่อิสราเอลเผชิญกับภัยคุกคามอีกด้านจากกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอน
นักข่าวของรอยเตอร์คนหนึ่งถูกสังหาร และนักข่าวอีก 6 คนจากเอเอฟพี, รอยเตอร์ และอัลจาซีรา ได้รับบาดเจ็บ ทางตอนใต้ของเลบานอน จากการยิงจรวดข้ามพรมแดนจากฝั่งอิสราเอล ซึ่งทางกองกำลังของอิสราเอลได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจ และขอตรวจสอบรายละเอียด
ในเขตเวสต์แบงก์ มีรายงานชาวปาเลสไตน์ 16 รายถูกสังหารในการปะทะกับกองกำลังอิสราเอลระหว่างการประท้วงสนับสนุนฉนวนกาซา
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้คนหลายพันคนยังได้ออกมารวมตัวเดินขบวนแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในเลบานอน, อิรัก, อิหร่าน, บาห์เรน และจอร์แดน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝนและความหนาวเย็นทำให้สถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นและตัวประกันในฉนวนกาซารุนแรงขึ้น
ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาว