กองทัพอิสราเอลเตรียมบุกด้วยทหาร ทิ้งใบปลิวเตือนชาวกาซานให้อพยพทันที สหรัฐร้องขอประเทศข้างเคียงให้ที่พักพิงผู้พยพ
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (ซ้าย) จับมือกับประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์ ในระหว่างการพบกันที่กรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม (Photo by Thaer GHANAIM / PPO / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลทิ้งใบปลิวลงบนฉนวนกาซาเพื่อเตือนประชาชนให้หลบหนีออกจากพื้นที่ทันที โดยแนบแผนที่ที่มีลูกศรชี้ไปทางทิศใต้ พร้อมข้อความที่ลงนามโดยกองทัพอิสราเอลสั่งให้ประชาชนอพยพออกจากที่พักพิงสาธารณะในเมืองกาซา และเตือนไม่ให้กลับเข้ามาอีกจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม
ชาวกาซาราว 423,000 คนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดย 60% ในจำนวนนี้พักพิงอยู่กับหน่วยงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติ
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติในกาซากล่าวว่าพวกเขาได้รับแจ้งจากกองทัพอิสราเอลให้ทำการอพยพประชาชนออกจากฉนวนกาซาทางตอนเหนือภายใน 24 ชั่วโมง
คำสั่งอพยพพลเรือนจำนวนมากเกิดขึ้นท่ามกลางการโจมตีฉนวนกาซาครั้งใหญ่โดยกองทัพอิสราเอลซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1,530 ราย ขณะที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสยิงจรวดใส่อิสราเอลจนมีผู้เสียชีวิตราว 1,200 ราย
สหประชาชาติทักท้วงว่าการที่ประชาชน 1.1 ล้านคนต้องพลัดถิ่นจากฉนวนกาซาตอนเหนืออาจนำไปสู่ “ผลเสียหายร้ายแรงด้านมนุษยธรรม” ในขณะที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะอพยพผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงและเคลื่อนย้ายหน่วยรักษาทางการแพทย์ในภาวะสงคราม
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ หารือร่วมกับกษัตริย์จอร์แดนและประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์ซึ่งปกครองตนเองในเขตเวสต์แบงก์ เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในฉนวนกาซา
นอกจากนี้ บลิงเคนยังทำงานร่วมกับอียิปต์ซึ่งมีพรมแดนติดกับฉนวนกาซาและเป็นประเทศอาหรับแห่งแรกที่สร้างสันติภาพกับอิสราเอล ในแผนสร้างทางเดินปลอดภัยจากพื้นที่สู้รบให้กับพลเรือนในกาซา
กษัตริย์จอร์แดนซึ่งเป็นพันธมิตรยาวนานของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ "เปิดช่องทางด้านมนุษยธรรมเพื่อให้มีการเข้าถึงความช่วยเหลือทางการแพทย์และการบรรเทาทุกข์อย่างเร่งด่วนในฉนวนกาซา และปกป้องพลเรือน ตลอดจนยุติความรุนแรงและสงครามในฉนวนกาซา"
แต่จอร์แดนซึ่งเป็นบ้านของผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ 2 ล้านคนอยู่แล้ว เตือนไม่ให้วิกฤตนี้เป็นการผลักดันพลเรือนให้เป็นผู้พลัดถิ่นอย่างถาวร เพราะจะเป็นการทำให้ปัญหาผู้ลี้ภัยรุนแรงขึ้นในประเทศข้างเคียง
รัฐบาลวอชิงตันออกแถลงการณ์ยืนหยัดเคียงข้างและพร้อมช่วยเหลือ แต่จะไม่แทรกแซงทางทหาร ในขณะที่อิสราเอลดำเนินการด้านความมั่นคงที่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อปกป้องตนเองจากการก่อการร้าย
กลุ่มฮามาสได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากอิหร่านซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของสหรัฐฯ แต่ก็มีความสัมพันธ์อันยาวนานกับกาตาร์ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯและถูกมองว่าจะเป็นตัวกลางสำคัญในการเจรจาเพื่อปล่อยตัวตัวประกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝนและความหนาวเย็นทำให้สถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นและตัวประกันในฉนวนกาซารุนแรงขึ้น
ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาว