'จอห์นสัน' เรียกมาตการยาสูบของ 'ซูนัก ' ว่า 'การแบ่งแยกสีผิว'

มีเพียงไม่กี่หัวข้อที่สามารถทำให้สังคมตะวันตกมีการแบ่งขั้วมากเท่ากับการอภิปรายเกี่ยวกับการห้ามสูบบุหรี่ เมื่อเร็วๆ นี้นายกรัฐมนตรี ริชี ซูนักได้ออกมาเป็นตัวแทนของแนวทางที่แข็งกร้าวนี้ เขาต้องการผลักดันนโยบายห้ามเด็กอายุ 14 ปีซื้อยาสูบไปตลอดชีวิต โดยเพิ่มขีดจำกัดอายุในการซื้อยาสูบขึ้นทุกปีจาก 18 ปีในปัจจุบัน

แต่ทว่า บอริส จอห์นสัน-อดีตนายกรัฐมนตรีก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แผนการของซูนักในแบบของเขาผ่านหนังสือพิมพ์ Daily Mail ด้วยอารมณ์โกรธเคือง ว่าเป็นมาตรการห้ามสูบบุหรี่ที่เหมือนการแบ่งแยกสีผิว ซึ่งจะคุกคามทุกคนที่เกิดหลังวันที่ 1 มกราคม 2009 “เด็กชายเอจะสามารถสูบบุหรี่ได้เหมือนปล่องไฟไปจนสิ้นอายุขัย ส่วนเด็กชายบีจะกลายเป็นอาชญากรเพียงเพราะเกิดหลังจากนั้นอีกหนึ่งวัน ถ้าเขาคิดจะทำจริง”

ขณะนี้มีการขโมยของในร้านเกิดขึ้นในประเทศที่ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ จอห์นสันเปรียบเปรย “เราเสนอให้กำหนดพฤติกรรมปกติอีกรูปแบบหนึ่งให้เป็นความผิดทางอาญา โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลที่ตามมาสำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติตาม” และ “คล้ายกับว่าเราควรวางตัวเองในตำแหน่งเหยื่อข่มขืนที่กำลังมองหาความยุติธรรม ในขณะที่ระบบยุติธรรมเต็มไปด้วย ‘เรื่องไร้สาระ’ มากเกินไป” กล่าวคือ การจัดการกับ “คนที่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะเชื่อฟังรัฐบาล และยังคงสูบบุหรี่โดยไม่คำนึงถึงวันเกิด”

นายกรัฐมนตรีริชี ซูนักกล่าวเพื่อยืนยันนโยบายของเขาว่า เขาต้องการให้แน่ใจว่าคนรุ่นใหม่สามารถเติบโตขึ้นโดยปราศจากควันได้ “ผมเชื่อว่าพวกเรา ไม่มีใครอยากให้ลูกโตมากับการสูบบุหรี่” เขาโพสต์ข้อความบน X (ทวิตเตอร์) เรื่องของการซื้อบุหรี่ไฟฟ้าสำหรับเยาวชนก็ควรถูกจำกัดอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกัน

อังกฤษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใหญ่สุดของสหราชอาณาจักร ต้องการเป็นเขตปลอดบุหรี่ให้ได้ภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม จากกรณีศึกษาพบว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้จะพลาดไปหลายปี ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษที่รับผิดชอบอังกฤษ ได้ประกาศโครงการนำร่องที่จะจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าฟรีแก่ผู้สูบบุหรี่หนึ่งล้านคน

นิวซีแลนด์ เคยบัญญัติไว้ในกฎหมายในช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษว่า ใครก็ตามที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2009 จะไม่สามารถซื้อยาสูบได้เลยในระหว่างมีชีวิต รวมถึงการเพิ่มอายุขั้นต่ำในการซื้อบุหรี่ทุกปี ตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป.