ประธานาธิบดีไต้หวันให้คำมั่นว่า ประชาธิปไตยจะเจริญรุ่งเรืองบนเกาะแห่งนี้ตลอดไป และประชาชนจะยังคง "เป็นอิสระไปอีกหลายชั่วอายุคน" แม้เผชิญแรงกดดันจากจีนเพิ่มขึ้นในระยะหลังก็ตาม
ศิลปินแสดงเชิดสิงโตในวันชาติไต้หวัน ที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไทเป เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม (Photo by Sam Yeh / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า ชาวไต้หวันออกมาร่วมเฉลิมฉลองวันชาติกันอย่างมีความสุข ท่ามกลางพิธีสำคัญที่จัดขึ้นหน้าทำเนียบประธานาธิบดี
ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีว่า ประชาธิปไตยจะเจริญรุ่งเรืองบนดินแดนแห่งนี้สืบไป พร้อมให้คำมั่นว่าประชาชนบนเกาะจะยังคงดำรงอิสรภาพไปอีกหลายชั่วอายุคน
เธอกล่าวว่า "เป็นหน้าที่ของผู้นำที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ และดำรงวิถีชีวิตที่เป็นประชาธิปไตยและเสรีของประชาชนไต้หวัน 23 ล้านคน ท่ามกลางแรงกดดันมหาศาลทั้งภายในและภายนอก ประชาธิปไตยของไต้หวันได้เติบโตและเจริญรุ่งเรือง ด้วยความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น"
"การปกป้องประชาธิปไตยของไต้หวันคือการปกป้องคุณค่าสากลของประชาธิปไตย ขอให้เชื่อมั่นว่าชาวไต้หวันจะเป็นประชาชนที่มีประชาธิปไตยและมีเสรีภาพไปอีกหลายชั่วอายุคน" ไช่ อิงเหวินกล่าวทิ้งท้าย
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แรงกดดันจากจีนแผ่นดินใหญ่ถาโถมใส่เกาะแห่งนี้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางทหารและการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการบริหารงานของประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ที่รัฐบาลปักกิ่งเกลียดชัง
จีนอ้างสิทธิ์มาตลอดว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตน และจะยึดคืนมาให้ได้ในสักวัน แต่ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ปฏิเสธที่จะยอมรับอำนาจของจีนเหนือเกาะแห่งนี้ ทำให้ในปีที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งได้เพิ่มแรงกดดันทางทหารและการเมือง รวมทั้งส่งเครื่องบินรบบินขู่รอบเกาะเพิ่มมากขึ้น และใช้แรงกดดันทางการทูตเพื่อโดดเดี่ยวรัฐบาลไทเปจากการยอมรับของประชาคมโลก
ไช่ อิงเหวินอยู่ในตำแหน่งผู้นำเป็นปีสุดท้าย และไม่สามารถลงสมัครรับตำแหน่งประธานาธิบดีได้อีกเนื่องจากข้อจำกัดทางรัฐธรรมนูญ โดยการเลือกตั้งระดับชาติจะจัดขึ้นในเดือนมกราคม ซึ่งตัวเต็งที่คาดว่าจะได้รับชัยชนะได้แก่ รองประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ (วิลเลียม ไล่) ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน.