พายุฝุ่นโจมตีอิหร่าน เสียชีวิต 3 ราย เจ็บป่วยรักษาตัวอีกหลายร้อย

มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย และอีกกว่า 1,300 คนต้องไปโรงพยาบาลเนื่องจากพายุฝุ่นกวาดไปทั่วจังหวัดซิสถานและบาลูจิสถาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน

แฟ้มภาพ พายุฝุ่นพัดถล่มเมืองในอิหร่าน (Photo by ATTA KENARE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2566 กล่าวว่า เกิดพายุฝุ่นพัดถล่มจังหวัดซิสถานและบาลูจิสถาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้เจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

พายุดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทางตอนใต้ของอิหร่าน เนื่องจากพื้นที่ที่เคยชุ่มน้ำกลายเป็นพื้นที่แห้งแล้งในอัตราที่น่าตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นเหตุให้เกิดข้อพิพาทเรื่องน้ำในภูมิภาคอีกด้วย

สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) รายงานตามข้อมูลที่ได้จากหัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการวิกฤตของจังหวัด กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 3 รายในสัปดาห์นี้จากอุบัติเหตุที่เกิดจากทัศนวิสัยลดลง และในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีผู้คน 1,346 คนได้ขอความช่วยเหลือทางการแพทย์จากโรงพยาบาลและศูนย์บริการฉุกเฉิน กระจายตามพื้นที่ของ 5 เมืองที่อยู่ติดกันใกล้ชายแดนอัฟกานิสถาน

รายงานระบุว่า อาการเจ็บป่วยที่พบมากที่สุดคือโรคระบบทางเดินหายใจ, หัวใจ และดวงตา

ทั้งนี้ พยากรณ์อากาศที่ออกโดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภูมิภาคคาดการณ์ว่าลมแรงและพายุฝุ่นจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายวัน

ฝุ่นและพายุทรายส่งผลกระทบต่อภูมิภาคตะวันออกกลางมาโดยตลอด แต่กลับรุนแรงขึ้นและบ่อยขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อมโยงปัญหานี้กับการทำปศุสัตว์มากเกินไปและการตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงการใช้น้ำในแม่น้ำแบบไม่เหลือกักเก็บ

กระแสน้ำไหลที่ลดลงในแม่น้ำเฮลมันด์ทำให้เกิดความตึงเครียดทางการทูตระหว่างอิหร่านและอัฟกานิสถานซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านและใช้ประโยชน์ในทางน้ำร่วมกัน

รัฐบาลเตหะรานกล่าวหาเขื่อนต้นน้ำที่สร้างโดยอัฟกานิสถานว่าจำกัดการไหลของน้ำลงสู่ทะเลสาบที่คร่อมพรมแดนร่วมกัน ในขณะที่รัฐบาลคาบูลโทษว่าเป็นเพราะปัจจัยทางภูมิอากาศที่ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำลดลง

จังหวัดซิสถานและบาลูจิสถานซึ่งได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนที่รุนแรงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม ต้องเผชิญกับการขาดแคลนน้ำมาเป็นเวลานาน

ไออาร์เอ็นเอรายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า ผู้คนราว 1,000 คนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นและพายุฝุ่น

อิหร่านซึ่งมีประชากรมากกว่า 85 ล้านคน เป็นหนึ่งในประเทศที่เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญภัยแล้งซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่นเดียวกับน้ำท่วมเป็นประจำ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.ปณิธาน วิเคราะห์สถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลตอบโต้กลับอิหร่าน 

รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และการต่างประเทศ  โพสต์คลิปสัมภาษณ์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความว่า  อิสราเอลแถลงว่าการโจมตีอิหร่านสิ้นสุดลงแล้ว (พรุ่งนี้ต้องจับตาดูการเจรจาหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันรอบใหม่ระหว่างฮามาสและอิสราเอลที่ Doha)

อิสราเอลถล่มกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ครั้งใหญ่ด้วยเครื่องบินขับไล่หลายสิบลำ

กองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ทำการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่สนับสนุนอิหร่านทางตอนใต้ของเลบา