ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เยือนเวียดนาม พร้อมยกย่องความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และร่วมบรรลุข้อตกลงเพื่อกระชับความร่วมมือด้านเซมิคอนดักเตอร์
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และเหงียนฟู่จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม (ที่ 5 จากขวา) จัดการประชุมที่สำนักงานใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในกรุงฮานอย เมื่อวันที่ 10 กันยายน (Photo by SAUL LOEB / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมจี20 ที่อินเดีย ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯได้เดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากคณะรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ระดับสูง
การหารือด้านความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมกับรัฐบาลฮานอยเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันที่รัฐบาลวอชิงตันต้องการขยายเครือข่ายพันธมิตรทั่วเอเชียแปซิฟิก ท่ามกลางอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนที่ไบเดนกล่าวหาว่าพยายามบิดเบือนระเบียบระหว่างประเทศให้เป็นไปตามความประสงค์ของตน
"สิ่งหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้คือจีนกำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์บางประการของการต่างประเทศ ทั้งในแง่ของการค้าและประเด็นอื่นๆ" ไบเดนกล่าวแถลง
ที่ผ่านมา รัฐบาลวอชิงตันได้ลงทุนอย่างมากในการสร้างพันธมิตรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก ทั้งการเจรจาด้านความมั่นคงจตุภาคีกับอินเดีย, ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น รวมทั้งสนธิสัญญาออคัส (AUKUS) กับอังกฤษและออสเตรเลีย
ไบเดนกล่าวว่า เขาต้องการสร้างกฎพื้นฐานที่ชัดเจนสำหรับแต่ละความสัมพันธ์ และไม่ได้ต้องการที่จะจำกัดและแบ่งแยกจีน พร้อมกล่าวว่าได้พบกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีนที่การประชุมจี20 และได้หารือเกี่ยวกับประเด็นด้าน "เสถียรภาพ"
ความหวาดกลัวของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ พึ่งพาจีนในด้านทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ ได้ผลักดันให้เกิดการกระชับความสัมพันธ์กับเวียดนาม
ความร่วมมือครั้งใหม่นี้รวมถึงข้อตกลงเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ โดยสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเวียดนามในการพัฒนาขีดความสามารถและขยายการผลิต
นอกจากนี้ยังมีหัวข้อเกี่ยวกับแร่ธาตุหายากซึ่งใช้ในการผลิตอุปกรณ์ไฮเทค เช่น สมาร์ทโฟน และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
เวียดนามมีแหล่งแร่หายากมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน และสหรัฐฯ ระบุว่า เวียดนามมีบทบาทสำคัญในการพิจารณากระจายความหลากหลายและเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน
เมื่อเดือนที่แล้ว ไบเดนเพิ่งประกาศจำกัดการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่มีความละเอียดอ่อนของสหรัฐฯในจีน อันได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์, คอมพิวเตอร์ควอนตัม และปัญญาประดิษฐ์
"นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่กว่า ทั้งเวียดนามและสหรัฐอเมริกาจะเป็นพันธมิตรในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างแท้จริง" ไบเดนกล่าวขณะที่เขาได้พบกับเหงียนฟู่จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองเวียดนาม
ข้อตกลงดังกล่าวทำให้สหรัฐฯ อยู่ในระดับเท่าเทียมกับจีน, รัสเซีย, อินเดีย และเกาหลีใต้ ที่อยู่ระดับบนสุดของลำดับชั้นความสัมพันธ์ทางการทูตของเวียดนาม ซึ่งเหงียนฟู่จ่องขอบคุณไบเดนที่มีส่วนร่วมในการปรับปรุงความสัมพันธ์สหรัฐฯ-เวียดนาม และให้คำมั่นว่าประเทศของเขาจะทำงานอย่างหนักเพื่อปฏิบัติตามข้อตกลง
ไบเดนยังกล่าวอีกว่า เขาได้พูดคุยเรื่องการยกระดับสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม และเหงียนฟู่จ่องให้คำมั่นว่าจะพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาในเรื่องนั้นต่อไป
ทั้งนี้ เวียดนามมีประวัติด้านสิทธิมนุษยชนที่เลวร้าย โดยผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลต้องเผชิญกับการข่มขู่คุกคาม และการจำคุกภายหลังการพิจารณาคดีที่ไม่ยุติธรรม รวมทั้งข้อกล่าวหาด้านการทรมานเหยื่อเพื่อให้รับสารภาพ.