เหตุระเบิดโจมตีบริเวณสถานที่ราชการในเมืองเมียวดี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเสียชีวิต 5 ราย และตำรวจบาดเจ็บ 11 นาย
กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Photo by KC Ortiz / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2566 กล่าวว่า เกิดเหตุระเบิดในเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นศูนย์กลางชายแดนเมียนมา คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่รัฐ 5 ราย และตำรวจบาดเจ็บ 11 คน
เมืองบริเวณชายแดนติดกับประเทศไทยมีการปะทะกันเป็นระยะๆ ระหว่างกองทัพและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อปี 2564 ส่งผลให้ประเทศตกอยู่ในความไม่สงบมายาวนาน
ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ มีระเบิด 2 ลูกถูกทิ้งจากกลางอากาศและตกลงไปในบริเวณสำนักงานตำรวจเขตและสำนักงานบริหารทั่วไป ตามมาด้วยการทิ้งระเบิดเพิ่มอีก 2 ลูก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายและบาดเจ็บ 11 คน
โดยผู้เสียชีวิตแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร 1 นาย, ตำรวจ 2 นาย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร 2 คน ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นตำรวจอีก 11 นาย โดย 5 นายมีอาการสาหัส
แหล่งข่าวตำรวจท้องที่ที่ไม่เปิดเผยชื่อก็ได้ยืนยันเหตุการณ์ดังกล่าวรวมทั้งตัวเลขผู้เสียชีวิต และยังไม่มีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้
รัฐบาลทหารเมียนมาแถลงในภายหลังว่า "สมาชิกความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี" แต่ไม่ได้แจ้งตัวเลขผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ พร้อมกล่าวโทษว่าเหตุดังกล่าวเป็นฝีมือของกองกำลังพิทักษ์ประชาชนที่ต่อต้านรัฐประหาร และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อสู้กับกองทัพ
คาดว่ากองกำลังที่ต่อสู้เพื่อล้มล้างการรัฐประหาร ได้ใช้โดรนเชิงพาณิชย์ในการสอดแนม และใช้เป็นอุปกรณ์ทิ้งระเบิดในครั้งนี้
ชาวเมืองเมียวดีที่ไม่ประสงค์ออกนามบอกกับเอเอฟพีว่า พวกเขาได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้งในเมือง เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์
นับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร กองกำลังพิทักษ์ประชาชนและกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง ได้ปะทะกับฝ่ายรัฐบาลและกองทัพเป็นระยะๆ ในเมืองเมียวดีและบริเวณโดยรอบในรัฐกะเหรี่ยง ส่งผลให้ผู้คนหลายหมื่นคนต้องหลบหนีความรุนแรงเข้าสู่เขตแดนประเทศไทย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
19 เหยื่อค้ามนุษย์ วอนนายกฯช่วยด่วน ถูกกักขังทรมานอยู่ในแหล่งอาชญากรรมริมน้ำเมยฝั่งพม่า
ความคืบหน้ากรณีที่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ (Civil Society Network for Victim Assistance in Human Trafficking) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย และหน่วยงานต่างๆของไทย