กองทหารออสเตรเลียและฟิลิปปินส์จัดการซ้อมรบร่วมกัน ใกล้จุดพิพาทในทะเลจีนใต้ที่จีนอ้างสิทธิ์ โดยผู้นำฟิลิปปินส์ ยกย่องสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นตัวอย่างที่สำคัญอย่างยิ่งของความร่วมมืออย่างใกล้ชิด
ริชาร์ด มาร์ลส์ รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย (กลาง), กิลแบร์โต เทโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ (ซ้าย) และแฮ คยอง ยู เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำฟิลิปปินส์ (ขวา) ถ่ายภาพร่วมกับทหารออสเตรเลียและฟิลิปปินส์ หลังจากเป็นสักขีพยานในการฝึกซ้อมร่วมกันที่ฐานทัพเรือในเมืองซานอันโตนิโอ จังหวัดซัมบาเลส ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม (Photo by Ted ALJIBE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า กองทหารออสเตรเลียและฟิลิปปินส์จัดการซ้อมรบร่วมกัน ที่ฐานทัพเรือห่างจากสันดอนสการ์โบโรไปทางตะวันออกราว 240 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ประมงอันอุดมสมบูรณ์ที่จีนยึดมาจากฟิลิปปินส์เมื่อปี 2555 หลังจากการเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ กล่าวให้ความเห็นต่อการซ้อมรบร่วมในครั้งนี้ว่า "เมื่อพิจารณาเหตุการณ์มากมายที่นำมาซึ่งความผันผวนของภูมิภาค การฝึกซ้อมในลักษณะนี้แสดงให้เห็นความร่วมมือทางยุทธศาสตร์อย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง"
"มันเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่อาจเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน" มาร์กอสกล่าวถึงการซ้อมรบที่เขาร่วมชมพร้อมกับริชาร์ด มาร์ลส์ รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย
การฝึกซ้อมทั้งทางอากาศ, ทางทะเล และทางบก ถือเป็นการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ครั้งแรกของทั้งสองประเทศ ในรูปแบบจำลองการโจมตีเกาะที่ศัตรูยึดไว้
ทหารออสเตรเลียประมาณ 1,200 นาย และนาวิกโยธินฟิลิปปินส์ 560 นาย บุกโจมตีชายหาดแห่งหนึ่งระหว่างการฝึกซ้อม ตามด้วยยานโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก และนาวิกโยธินที่กระโดดร่มชูชีพลงมาจากเครื่องบินออสเปรย์ของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เครื่องบินขับไล่เอฟ-35 ขั้นสูงของออสเตรเลีย 2 ลำได้ให้การสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิด และเรือรบของออสเตรเลียก็ทำการป้องกันน่านน้ำโดยรอบ
"เรามุ่งมั่นที่จะสร้างโลกทัศน์ที่ข้อพิพาทถูกกำหนดโดยการอ้างอิงถึงกฎหมายระหว่างประเทศ และสิ่งที่เราจะทำคือนำความสามารถทางการทหารของเรามาปรับปรุงความสงบเรียบร้อยตามหลักสากล" รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย กล่าวในการแถลงข่าว
เขายังเตือนอีกว่า "เดิมที สันติภาพได้รับการดำรงไว้โดยการคุ้มครองความสงบเรียบร้อยตามกฎเกณฑ์ทั่วโลก แต่ขณะนี้ความสงบเรียบร้อยกลับอยู่ภายใต้แรงกดดัน"
รัฐมนตรีต่างประเทศของสองชาติยังได้ออกแถลงการณ์ร่วม ซึ่งระบุถึงความตั้งใจที่จะลาดตระเวนร่วมแบบทวิภาคีในทะเลจีนใต้และพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ที่มุ่งมั่นรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ได้เข้าร่วมเช่นกัน
การฝึกซ้อมในสัปดาห์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เรือยามชายฝั่งของจีนยิงปืนน้ำเข้าใส่และขัดขวางภารกิจเสริมกำลังของเรือฟิลิปปินส์ที่เดินทางไปยังสันดอนโทมัสที่ 2 ในทะเลจีนใต้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม
รัฐบาลปักกิ่งมักส่งหน่วยยามฝั่ง, กองทัพเรือ และเรืออื่นๆ หลายร้อยลำไปลาดตระเวนและเสริมกำลังทหารตามแนวปะการังในทะเลจีนใต้ซึ่งจีนอ้างสิทธิ์เกือบทั้งหมด แม้จะถูกนานาชาติทักท้วงว่าการกล่าวอ้างสิทธิ์เพียงฝ่ายเดียว ไม่มีผลทางกฎหมาย
ขณะที่กองทัพเรือฟิลิปปินส์จงใจจอดเรือสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทิ้งไว้ที่บริเวณสันดอนดังกล่าว และจัดตั้งกองทหารรักษาการณ์เล็กๆ ในปี 2542 เพื่อตรวจสอบการรุกคืบของจีนในพื้นที่ทะเลใกล้เคียง.