รัฐบาลมอสโกปฏิเสธข่าวลือที่กล่าวหาว่าได้สั่งสังหารเยฟกีนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ ที่เพิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า
ภาพถ่ายของเยฟกีนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ได้รับการวางดอกไม้ไว้อาลัยหน้าอาคารละครสัตว์ในเมืองรอสตอฟ-นา-โดนู ทางตอนใต้ของรัสเซีย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม (Photo by STRINGER / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า 2 เดือนภายหลังก่อกบฏในรัสเซีย เยฟกีนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ กลับมาอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังปรากฏรายชื่อเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งร่วงลงสู่พื้น ระหว่างการเดินทางในน่านฟ้ากรุงมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
จากข้อมูลเบื้องต้น ทางการรัสเซียระบุว่า มีผู้เสียชีวิตบนเครื่องทั้งหมด 10 ราย รวมทั้งลูกเรือ 3 ราย และเยฟกีนี ปริโกซิน อยู่บนเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุ ตามรายนามผู้โดยสารจากข้อมูลของเที่ยวบิน Embraer-135 (EBM-135BJ)
เหตการณ์ดังกล่าวเป็นที่ถกเถียงกันกว้างขวางในโลกตะวันตก ที่ไม่ประหลาดใจกับมรณกรรมของบุคคลที่โดดเด่นอย่างมากในสงครามยูเครน พร้อมกับเชื่อว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อยู่เบื้องหลังการสั่งตายในครั้งนี้
ล่าสุด รัฐบาลมอสโกออกมาสยบคำกล่าวหาจากชาติตะวันตก และกล่าวถึงเหตุการณ์เครื่องบินตกว่า "น่าสลดใจ"
"แน่นอนว่าในโลกตะวันตก การคาดเดาเชิงปฏิปักษ์มักถูกนำเสนอจากมุมหนึ่ง บนพื้นฐานของเรื่องโกหกโดยสิ้นเชิง" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลฯ กล่าวแถลง พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดทนรอการสอบสวนที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งนี้ให้ทราบในภายหลัง
เจ้าหน้าที่รัสเซียได้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการละเมิดกฎจราจรทางอากาศแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการสอบสวนหรือเหตุการณ์ดังกล่าว
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพิ่งออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 10 คนบนเครื่อง และเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น "โศกนาฏกรรม"
เขากล่าวว่าปริโกซิน ซึ่งเป็นผู้นำการกบฏเพื่อต่อต้านผู้นำทางทหารของรัสเซียเมื่อเดือนมิถุนายน ได้ทำ "ข้อผิดพลาดร้ายแรงในชีวิต" และมี "ชะตากรรมที่ซับซ้อน"
ผู้สังเกตการณ์มองว่าเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ ถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อการปกครองอันยาวนานของปูติน
แม้ว่ารัฐบาลมอสโกยังไม่ยืนยันการเสียชีวิตของปริโกซิน และปูตินกล่าวเหมือนว่าเขาตายไปแล้ว แต่เปสคอฟก็ออกตัวว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบเพื่อระบุตัวตนปริโกซินอย่างเป็นทางการจากศพของเหยื่อที่เสียชีวิต
ในการปราศรัยเมื่อวันพฤหัสบดี ปูตินกล่าวว่าเขารู้จักปริโกซิน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพันธมิตรที่ภักดีมาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 โดยทั้งสองต่างมีพื้นเพจากกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของรัสเซีย
แม้ว่าจะสูญเสียหัวหน้าไป และชะตากรรมของกลุ่มยังไม่ชัดเจน แต่วากเนอร์ยังคงมีบทบาททางทหารอย่างแข็งขันในทวีปแอฟริกา และยังคงเป็นที่นับถือจากชาวรัสเซียจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่ปูตินเคยกล่าวไว้ว่า กลุ่มวากเนอร์มีส่วนสนับสนุนอย่างมากต่อปฏิบัติการพิเศษทางทหาร และวีรกรรมของคนเหล่านี้จะไม่มีวันถูกลืม.