'อียู' เพิ่มมาตรการเข้มงวดกับเฟซบุ๊กและแพลตฟอร์มอื่นๆ

AFP

ตามกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป Facebook, Google และแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ จะต้องดำเนินการที่เข้มงวดมากขึ้นกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมายบนอินเทอร์เน็ต มิฉะนั้นพวกเขาจะต้องได้รับโทษปรับอย่างหนัก กฎหมายใหม่นี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคมเป็นต้นไป

สหภาพยุโรปผ่านกฎหมายเกี่ยวกับบริการดิจิทัลเมื่อปีที่แล้ว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มและเสิร์ชเอ็นจินจะลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายออกจากแพลตฟอร์มของตนได้เร็วกว่าที่ผ่านมา ในทางกลับกัน ผู้ใช้จะรายงานเนื้อหาดังกล่าวได้ง่ายขึ้น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วบริการขนาดใหญ่จะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ได้มากกว่าบริการขนาดเล็ก

ในเบื้องต้น แพลตฟอร์มและเสิร์ชเอ็นจินขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 45 ล้านคนต่อเดือนจะได้รับผลกระทบ ข้อกำหนดที่เข้มงวดจะมีผลกับพวกเขามากกว่าบริษัทขนาดเล็ก เพราะจากมุมมองของสหภาพยุโรป สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสังคมได้มากกว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สหภาพยุโรปจำแนกบริษัท 19 แห่งว่าเป็น “แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่มาก” และ “เสิร์ชเอ็นจินออนไลน์ขนาดใหญ่มาก” ซึ่งรวมถึง X (เดิมชื่อ Twitter), Facebook, Instagram, TikTok และบริการต่างๆ ของ Google รวมถึง Zalando, Wikipedia, Booking.com, Amazon Marketplace และ App Stores ของ Apple พวกเขามีเวลาสี่เดือนในการดำเนินการตามข้อกำหนดใหม่ของสหภาพยุโรป

เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปชี้แจงว่า ในอนาคต เงื่อนไขต่างๆ จะต้องได้รับการกำหนดในลักษณะที่เด็กทุกคนสามารถเข้าใจได้ ตลาดออนไลน์อย่าง Amazon หรือ Alibaba AliExpress ควรลบข้อเสนอเสื้อผ้าลอกเลียนแบบหรือของเล่นที่เป็นอันตรายออกให้มากที่สุด พร้อมระบุคำเตือนให้ผู้ซื้อรับทราบอย่างครบถ้วน

แพลตฟอร์มและเสิร์ชเอ็นจินไม่เพียงแต่ต้องลบโพสต์ที่ผิดกฎหมายให้เร็วกว่าที่เคย ในอนาคตพวกเขายังจะต้องรายงานโดยละเอียดต่อคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเกี่ยวกับความเสี่ยงสำหรับพลเมืองยุโรปอีกด้วย ตัวอย่างเช่น Snapchat หรือ YouTube ต้องตรวจสอบว่าข้อเสนอของพวกเขาส่งเสริมความรุนแรงในโลกไซเบอร์ บ่อนทำลานเสรีภาพในการแสดงออก หรือว่าอัลกอรึธึมของพวกเขามีผลกระทบด้านลบต่อจิตใจของมนุษย์หรือไม่ ซึ่งบริษัทจะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสม

โฆษณาที่กำหนดเป้าหมายจะถูกแบนเช่นกัน หากโฆษณานั้นๆ อิงตามข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ศาสนา หรือความเชื่อทางการเมือง และจะต้องไม่มีการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเด็กและเยาวชนเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาอีกต่อไป นอกจากนี้ควรจำกัดความลับของแพลตฟอร์ม นั่นหมายความว่า ในอนาคตพวกเขาจะต้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีทำงาน

หากบริษัทใดไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด พวกเขาจะถูกปรับสูงถึง 6 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ประจำปีทั่วโลก คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเน้นย้ำเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “การปฏิบัติตาม Digital Services Act (DSA หรือกฎหมายว่าด้วยการกำกับดูแลการให้บริการดิจิทัล) ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นหนทางสำหรับแพลตฟอร์มในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ” และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเป็นต้นไป กฎเกณฑ์นี้จะนำไปใช้กับบริษัทดิจิทัลขนาดเล็กด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยบนเส้นทาง Data Center Hub: ปลดล็อคศักยภาพ สู่ "Digital Thailand" อย่างยั่งยืน

ปี 2567 นับเป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนสำคัญบนแผนที่ Data Center โลก เมื่อยักษ์ใหญ่สายเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น AWS, Microsoft, Google ต่างประกาศลงทุนสร้าง Data Center ในประเทศไทย

ตร. เร่งล่าตัวมือโพสต์ขู่กราดยิงห้างดัง ยังคุมเข้มต่อตลอดสัปดาห์

ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า บรรยากาศบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น (เซ็นทรัลพลาซ่า)