เหมืองหยกเมียนมาถล่ม สูญหายอย่างน้อย 25 คน

มีผู้สูญหายอย่างน้อย 25 คนหลังเกิดดินถล่มที่เหมืองหยกเถื่อนในพื้นที่ห่างไกลของเมียนมา

แฟ้มภาพ ดินถล่มที่เหมืองหยกเถื่อนนอกเมืองผากันทางตอนเหนือของรัฐกะฉิ่น ประเทศเมียนมา (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า เกิดเหตุดินถล่มนอกเมืองผากันทางตอนเหนือของรัฐกะฉิ่น ใกล้กับจุดที่คนงานเหมืองหลายร้อยคนถูกฝังอยู่ในเหตุดินถล่มเมื่อปี 2563

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเผยว่า มีผู้สูญหายประมาณ 25 คนและยังระบุตัวตนไม่ได้ พร้อมเสริมว่ากองดินขนาดใหญ่สูงประมาณ 150-180 เมตรจากการขุดเหมืองพังถล่มลงมา ซึ่งอาจมีสาเหตุจากฝนตกหนักในช่วงไม่กี่วันมานี้

ภารกิจค้นหาและกู้ภัยดำเนินต่อไปอย่างยากลำบาก เพราะเป็นพื้นที่เข้าถึงยากและความหวาดกลัวว่าดินจะถล่มซ้ำ

เจ้าหน้าที่เสริมว่า ปกติเหมืองจะระงับดำเนินการในช่วงฤดูฝนเพื่อความปลอดภัย แต่เชื่อว่าเหมืองเถื่อนแห่งนี้ไม่มีมาตรการใดๆรองรับ นอกจากหวังกอบโกยเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการขุดหยกที่ให้ผลตอบแทนสูงส่วนใหญ่ไม่มีการควบคุม โดยแรงงานข้ามชาติค่าจ้างต่ำต้องทนกับสภาวะที่เป็นอันตรายและเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงบ่อยครั้งจนมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนในแต่ละปี

นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและกลุ่มสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปแรงงานเหมืองในเมียนมามานานแล้ว แต่การรัฐประหารโดยกองทัพในปี 2564 ได้ยุติความหวังที่จะสร้างมาตรฐานที่ดีขึ้นในอุตสาหกรรมนี้

หยกและทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์อื่น ๆ ทางตอนเหนือของเมียนมา ซึ่งรวมถึงไม้, ทองคำ และอำพัน ได้กลายเป็นเงินทุนสนับสนุนในสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานหลายทศวรรษระหว่างกลุ่มกบฏชาติพันธุ์กะฉิ่นกับกองทัพทหาร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนุ่มสกลนครเมา โดนบูลลี่กลางวงเหล้า คว้ามีดปาดคอเพื่อนชาวเมียนมาสาหัส

พ.ต.ท.สายัณต์ ภูพรรณา สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายใช้อาวุธมีดปาดคอมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

นายกฯ นำยึด 'โทลูอีน' สารตั้งต้นยาเสพติด ล็อตใหญ่ 90 ตัน

'เศรษฐา' ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบับ นำยึด 'โทลูอีน' สารตั้งต้นยาเสพติดล็อตใหญ่กว่า 90 ตัน พบต้นทางเกาหลีใต้ปลายทางเมียนมา กำชับ ตร. ดูแลสวัสดิการเจ้าหน้าที่ หลังเกิดเหตุปะทะ อ.เชียงดาว

ฮือฮา! ทุเรียนลูกละ 1 บาท แห่รับบัตรคิวแน่นตลาด

ตลาดมหาชัยไนท์ต้นสน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดมหกรรมทุเรียน ระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2567 สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาด