น้ำท่วมและดินถล่มที่เกิดจากฝนมรสุม คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 5 ราย และต้องอพยพอีกราว 40,000 คนในเมียนมา
สภาพถนนที่ถูกน้ำท่วมในรัฐมอญของเมียนมา เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม (Photo by SAI Aung MAIN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า เกิดฝนตกหนักและดินถล่มในรัฐยะไข่ของเมียนมา ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่และพื้นที่เพาะปลูกจมอยู่ใต้น้ำ
เมียนมาเผชิญฝนตกหนักทุกปีในช่วงเวลานี้ แต่ภาวะสภาพอากาศสุดขั้วได้เกิดขึ้นทั่วโลกช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ความรุนแรงก่อตัวหนักขึ้นกว่าเดิม
มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย รวมทั้งการอพยพประชาชนกว่า 40,000 คนทั่วประเทศ ตามข้อมูลที่ได้จากกระทรวงสวัสดิการสังคม, การบรรเทาทุกข์ และการตั้งถิ่นฐานของเมียนมา
น้ำท่วมเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม และส่งผลกระทบต่อรัฐและภูมิภาค 9 แห่ง รวมถึงยะไข่, กะฉิ่น, กะเหรี่ยง, มอญ, และชิน
ในรัฐกะเหรี่ยง ดินถล่มได้ตัดทางหลวงสายสำคัญที่เชื่อมโยงเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับชายแดนไทย และรัฐบาลทหารกล่าวว่าอาจใช้เวลา 1 เดือนในการสร้างสะพานชั่วคราว เพื่อบรรเทาการขนส่ง
เมียนมาตกอยู่ภายใต้เงาแห่งความขัดแย้งนองเลือดระหว่างรัฐบาลทหารซึ่งยึดอำนาจด้วยการรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 กับกองกำลังติดอาวุธพลเรือนที่ต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการ
สหประชาชาติเคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารอย่างรุนแรงต่อการจัดการกับผลพวงของพายุไซโคลนโมคา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 148 รายและทำลายบ้านเรือนจำนวนมาก รวมทั้งประณามการที่รัฐบาลทหารไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ต่างชาติเข้าถึงพื้นที่ภัยพิบัติพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ดร.ธรณ์' ชี้มหาพายุเฮอริเคน 'มินตัน' สภาพอากาศสุดขั้ว คนอเมริกานับล้านต้องอพยพหนี
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า