รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจะปรากฏตัวต่อหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อประณามการใช้อาหารเป็นอาวุธ โดยมุ่งเป้าไปยังรัสเซียที่ยังคงโจมตีแหล่งอาหารโลกอย่างยูเครนไม่หยุดหย่อน
แฟ้มภาพ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (ซ้าย) จับมือกับอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ขวา) ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา (Photo by Yuki IWAMURA / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ จะขึ้นกล่าวต่อหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และจะใช้โอกาสดังกล่าวในการเปิดประเด็นการต่อสู้กับความไม่มั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเชื่อมโยงกับความขัดแย้งทางสงคราม
คาดว่าการประชุมสหประชาชาติในวาระนี้ จะใช้คำนิยมที่ว่า "ความหิวจะต้องไม่ถูกทำให้เป็นอาวุธ" เป็นหัวข้อหลัก
ทั้งนี้ รัฐบาลวอชิงตันตั้งใจที่จะออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อประณาม "การใช้อาหารและความอดอยากเป็นอาวุธสงคราม" นอกรอบการประชุมซึ่งได้รับการลงนามแล้วจากกว่า 75 ประเทศ ตามรายงานของเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ
การประชุมดังกล่าวจะดำเนินการอย่างเป็นทางการในด้านวิกฤตอาหาร และจะไม่มีเนื้อหาพุ่งเป้าไปยังการสู้รบในยูเครนโดยตรง แต่รัฐบาลมอสโกจะถูกหยิบยกพฤติกรรมมาอ้างถึงในการประชุม จากกรณีรุกรานยูเครนและการถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำเมื่อเร็ว ๆ นี้
เมื่อเดือนที่แล้ว รัสเซียปฏิเสธที่จะขยายข้อตกลงดังกล่าวซึ่งอนุญาตให้ส่งออกธัญพืชของยูเครนผ่านทะเลดำได้อย่างปลอดภัยในภาวะสงคราม และการหยุดดำเนินการจะส่งผลให้ราคาอาหารโลกพุ่งสูงขึ้นจนกระทบต่อประเทศยากจนอย่างหนัก
"หลังจากรัสเซียยุติข้อตกลงฯ ราคาข้าวสาลีโลกก็พุ่งขึ้นทันที 17%" เจ้าหน้าที่สหรัฐให้ข้อมูล
นอกจากนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดรนของรัสเซียยังได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือยูเครนบนแม่น้ำดานูบ เพื่อทำลายกระบวนการขนส่งธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางอื่น หลังจากการล่มสลายของข้อตกลงในเส้นทางผ่านทะเลดำ
บลิงเคนจะประกาศเงินทุนสนับสนุนครั้งใหม่จำนวน 362 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการเพื่อต่อสู้กับความไม่มั่นคงทางอาหารและการขาดสารอาหารใน 12 ประเทศแอฟริกาและเฮติ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ประชาชนราว 345 ล้านคนใน 79 ประเทศกำลังประสบปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารเฉียบพลัน ซึ่งไม่ใช่มีสาเหตุเพียงแค่ความขัดแย้งในสงคราม แต่ยังมีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย.