ยูเครน : สงครามนำมาซึ่งความเสมอภาคทางเพศ?

AFP

มักซิม โปตาโปวิช นักเคลื่อนไหวชาวยูเครนเล่าว่า นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียรุกคืบเข้ามา สถานการณ์เกี่ยวกับ LGBT ในยูเครนได้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ก่อนหน้านี้เขาเคยช่วยจัดการชุมนุมในเคียฟ และเคยถูกต่อต้านหลายครั้ง ทั้งจากกลุ่มขวาจัดและเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ทุกวันนี้ดูเหมือนหลายฝ่ายเริ่มเปิดใจยอมรับบ้างแล้ว

“เราได้รับความสนใจมากขึ้น ต้องขอบคุณนักการทูตตะวันตกที่ทุ่มเทให้กับเราอย่างมากในด้านการเมือง” โปตาโปวิชกล่าว รัฐบาลยูเครนเองก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า การที่ประเทศจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปย่อมต้องคำนึงถึงสิทธิของ LGBT ด้วย “การมีอยู่ของเราทำให้เกิดการยอมรับขึ้นมาได้” เขาทำหน้าที่เป็นโฆษกขององค์กร LGBT Military ซึ่งมีสมาชิกที่เป็นทหารอยู่ราว 300 นาย ในกลุ่มแชตแบบปิด พวกเขาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและจัดการเรื่องความช่วยเหลือ

“ตอนนี้หลายคนพูดอย่างเปิดเผยเรื่องเพศ นั่นเพราะสงครามทำให้เกิดคำถามที่มีอยู่ก่อนแล้ว” โปตาโปวิชบอก องค์กรของเขาไม่ต่างจากองค์กรสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับการที่คนรักเพศเดียวกันสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้โดยผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม นานมาแล้วที่การอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในมุมมองของนักการเมืองอนุรักษ์นิยม และโดยเฉพาะการต่อต้านของคริสตจักร แต่แล้วสงครามที่เกิดขึ้นก็ทำให้กลุ่มเพศทางเลือกเริ่มมองเห็นความหวัง

“มันฟังดูขัดแย้งกัน แต่ด้วยสงครามของรัสเซียซึ่งมุ่งต่อต้านทุกสิ่งในโลกตะวันตกและต่อต้านเสรีภาพ ดูเหมือนจะทำให้หน้าต่างประวัติศาสตร์เปิดออก และสิทธิของเราเป็นเรื่องที่จับต้องได้มากขึ้น” อันเดร คราฟชุค นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนจากองค์กร LGBT Nash Svit Center ในเคียฟกล่าว “สถานะผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปสำหรับยูเครนทำหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อน ทุกอย่างกำลังพัฒนาเร็วขึ้นด้วย เพราะมีแรงจูงใจอย่างหนึ่งสำหรับนักการเมืองของเรา นั่นคือการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป”

เท่าที่พอสังเกตได้คือ นักการเมืองของยูเครนหยุดออกแถลงการณ์ต่อต้านเกย์อย่างเปิดเผย เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ตะวันตกมองว่ามีทัศนคติหรือแนวคิดแบบเดียวกันกับรัสเซีย ที่เป็นปรปักษ์กับกลุ่มรักร่วมเพศและคนข้ามเพศอย่างเห็นได้ชัด “ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ประเทศของเราต้องชนะสงครามครั้งนี้ให้ได้ เพื่อที่เราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเสรี” คราฟชุคยังกล่าวเสริมด้วยว่า จำนวนอาชญากรรมจากความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่ม LGBT ในยูเครนลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎหมายบางฉบับที่ผ่านมติของรัฐสภายูเครน

จากการสำรวจความเห็นประชาชนของ Kyiv International Institute of Sociology ก็ได้ผลลัพธ์ที่บ่งชี้ว่าสังคมกำลังมีการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลที่เปิดเผยในเดือนมิถุนายนระบุว่า ร้อยละ 67.3 ของชาวยูเครนผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า LGBT ควรมีสิทธิเท่าเทียมกับคนอื่นๆ มากขึ้นเป็นสองเท่าของผลสำรวจเมื่อปี 2019 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 33.4 อีกทั้งการสนับสนุนเรื่องสมรสเท่าเทียมก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 28 จากร้อยละ 4.8 เมื่อปี 2016.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประธานาธิบดีปูตินขู่เอาคืนยูเครน หลังเหตุโจมตีในคาซาน

หลังจากโดรนโจมตีเมืองคาซาน ทางตอนกลางของรัสเซีย ประธานาธิบดีปูตินขู่จะตอบโต้ ในเบื้องต้นยูเครนยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีดั

ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' ประเดิม 18 ธ.ค. บุก ป.ป.ช. หึ่งล็อบบี้หนักล้มคดีชั้น 14

วงหารือฝ่ายต้านรัฐบาล ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' นำร่อง 18 ธ.ค. บุกตึก ป.ป.ช. หลังได้กลิ่นล็อบบี้หนัก 3 กรรมการฯ ล้มคดีชั้น 14

'ว้าแดง' ออกแถลงการณ์ด่วน ปัดข่าวเตรียมทำสงครามกับกองทัพไทย

“ว้าแดง” ออกหนังสือแถลงการณ์ ยันไม่มีความตึงเครียดระหว่าไทย-ว้าแดง วอนชาวเน็ตกับตาดูและอย่าเชื่อข่าวลือนำไปเผยแพร่

ฝนและความหนาวเย็นทำให้สถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นและตัวประกันในฉนวนกาซารุนแรงขึ้น

ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาว

'นีลา อิบราฮิมิ' นักเคลื่อนไหวชาวอัฟกานิสถานได้รับรางวัล Children‘s Peace Prize

นีลา อิบราฮิมิ นักเคลื่อนไหวชาวอัฟกานิสถานวัย 17 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานของเธอในการต่อต้านการกดขี่สตรีโดย