โดนัลด์ ทรัมป์ถูกตั้งข้อหาพยายามล้มการเลือกตั้งปี 2563

โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสั่งฟ้องจากความพยายามของเขาที่จะล้มล้างผลการเลือกตั้งในปี 2563 ซึ่งเป็นภัยคุกคามทางกฎหมายที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับอดีตประธานาธิบดี ท่ามกลางช่วงเวลารณรงค์หาเสียงกลับสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง

โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา (Photo by Sergio FLORES / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 2 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาจากพรรครีพับลิกัน ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิด 3 กระทงและขัดขวาง 1 กระทงในคำฟ้องความยาว 45 หน้าซึ่งยื่นโดยแจ็ค สมิธ อัยการพิเศษของกระทรวงยุติธรรม

ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงประเทศ และสมรู้ร่วมคิดในการขัดขวางภารกิจทางการของสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ที่จัดขึ้นเพื่อรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต

"จุดประสงค์ของการสมรู้ร่วมคิดคือการล้มล้างผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2563 ซึ่งชอบด้วยกฎหมาย โดยใช้การกล่าวอ้างให้เกิดความเข้าใจผิดว่ามีการโกงผลการเลือกตั้ง การอ้างเหล่านี้เป็นเท็จ และจำเลยรู้ว่าเป็นเท็จ" คำฟ้องระบุ

คำฟ้องยังระบุด้วยว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมด 6 คน แต่ไม่มีการระบุชื่อของจำเลยรายอื่น และทรัมป์เป็นจำเลยเพียงคนเดียวที่ถูกเปิดเผยชื่อ

ตามรายงานของสื่อสหรัฐฯ ทรัมป์จะถูกตั้งข้อหาทางอาญาอย่างเป็นทางการต่อหน้าศาลในวันที่ 3 สิงหาคม

ก่อนหน้านี้ สมิธได้ยื่นฟ้องทรัมป์แล้วในข้อหาจัดการเอกสารลับของรัฐบาลโดยมิชอบ และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐยังถูกพิจารณาคดีในนิวยอร์กด้วยข้อหาจ่ายเงินก่อนวันเลือกตั้งให้กับดาราหนังโป๊

ทรัมป์ ซึ่งอยู่ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเพื่อสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2567 ตำหนิการกระทำของกระทรวงยุติธรรม และโจมตีการสอบสวนหลายครั้งว่าเป็น "การล่าแม่มด" ทางการเมือง โดยหวังแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน เขาถูกตั้งข้อหา 37 กระทงที่เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธส่งคืนเอกสารลับสุดยอดที่เขาครอบครองไว้หลังออกจากทำเนียบขาว

ข้อหาเหล่านั้นรวมถึงการเก็บข้อมูลความมั่นคงของประเทศ, การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และการแถลงข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งทำให้ต้องโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี

ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์เคยถูกถอดถอนโดยสภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมเสียงข้างมากโดยพรรคเดโมแครต ภายใต้ข้อหาบิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมืองต่อโจ ไบเดน รวมไปถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 6 มกราคม แต่เขาถูกวุฒิสภาเสียงข้างมากจากพรรครีพับลิกันตัดสินให้พ้นผิดทั้งสองข้อหา.

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 2 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาจากพรรครีพับลิกัน ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิด 3 กระทงและขัดขวาง 1 กระทงในคำฟ้องความยาว 45 หน้าซึ่งยื่นโดยแจ็ค สมิธ อัยการพิเศษของกระทรวงยุติธรรม

ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงประเทศ และสมรู้ร่วมคิดในการขัดขวางภารกิจทางการของสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ที่จัดขึ้นเพื่อรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต

"จุดประสงค์ของการสมรู้ร่วมคิดคือการล้มล้างผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2563 ซึ่งชอบด้วยกฎหมาย โดยใช้การกล่าวอ้างให้เกิดความเข้าใจผิดว่ามีการโกงผลการเลือกตั้ง การอ้างเหล่านี้เป็นเท็จ และจำเลยรู้ว่าเป็นเท็จ" คำฟ้องระบุ

คำฟ้องยังระบุด้วยว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมด 6 คน แต่ไม่มีการระบุชื่อของจำเลยรายอื่น และทรัมป์เป็นจำเลยเพียงคนเดียวที่ถูกเปิดเผยชื่อ

ตามรายงานของสื่อสหรัฐฯ ทรัมป์จะถูกตั้งข้อหาทางอาญาอย่างเป็นทางการต่อหน้าศาลในวันที่ 3 สิงหาคม

ก่อนหน้านี้ สมิธได้ยื่นฟ้องทรัมป์แล้วในข้อหาจัดการเอกสารลับของรัฐบาลโดยมิชอบ และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐยังถูกพิจารณาคดีในนิวยอร์กด้วยข้อหาจ่ายเงินก่อนวันเลือกตั้งให้กับดาราหนังโป๊

ทรัมป์ ซึ่งอยู่ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเพื่อสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2567 ตำหนิการกระทำของกระทรวงยุติธรรม และโจมตีการสอบสวนหลายครั้งว่าเป็น "การล่าแม่มด" ทางการเมือง โดยหวังแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน เขาถูกตั้งข้อหา 37 กระทงที่เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธส่งคืนเอกสารลับสุดยอดที่เขาครอบครองไว้หลังออกจากทำเนียบขาว

ข้อหาเหล่านั้นรวมถึงการเก็บข้อมูลความมั่นคงของประเทศ, การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และการแถลงข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งทำให้ต้องโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี

ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์เคยถูกถอดถอนโดยสภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมเสียงข้างมากโดยพรรคเดโมแครต ภายใต้ข้อหาบิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมืองต่อโจ ไบเดน รวมไปถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 6 มกราคม แต่เขาถูกวุฒิสภาเสียงข้างมากจากพรรครีพับลิกันตัดสินให้พ้นผิดทั้งสองข้อหา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โดนัลด์ ทรัมป์' อาจเคยแอบส่งชุดตรวจไวรัสโคโรนาให้กับ 'วลาดิมีร์ ปูติน'

หนังสือเล่มใหม่เผยให้เห็นการติดต่อระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์กับเครมลิน ดังนั้นเขาอาจยังรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวลา