ฮุน เซน ประกาศวางมือ พร้อมส่งไม้ต่อให้ลูกชาย หลังเพิ่งชนะถล่มทลายจากการเลือกตั้งข้างเดียว

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา หนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาจะลาออกหลังจากปกครองมาเกือบ 4 ทศวรรษ และจะมอบอำนาจให้กับลูกชายคนโตของเขา

ประชาชนเฝ้าดูขณะที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชากล่าวแถลงการณ์พิเศษทางโทรทัศน์ ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม (Photo by TANG CHHIN Sothy / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 26 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ออกแถลงการณ์พิเศษทางสถานีโทรทัศน์ของประเทศ พร้อมแจ้งวางมือจากตำแหน่งผู้นำที่ครอบครองมานานกว่า 38 ปี

ในการเลือกตั้งล่าสุด อดีตนายทหารฝ่ายเขมรแดงซึ่งกุมอำนาจบริหารสูงสุดมาตั้งแต่ปี 2528 ได้ทำการขจัดกระบวนการที่จะเป็นอุปสรรคต่อการสืบทอดอำนาจของเขาทั้งหมด ทั้งห้ามพรรคฝ่ายค้านลงสมัคร, ผู้ต่อต้านถูกกดดันจนต้องหลบหนี และเสรีภาพในการแสดงออกถูกจำกัด

ทำให้พรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ของเขาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย โดยได้รับคะแนนเสียงกว่า 82% และกรุยทางสู่การสืบทอดอำนาจให้กับลูกชายคนโตของเขา ซึ่งนักวิจารณ์บางคนนำไปเปรียบเทียบกับการเมืองเกาหลีเหนือ

"ผมอยากทำความเข้าใจกับประชาชนทุกคน และขอประกาศว่าจะไม่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป" ฮุน เซน วัย 70 ปี กล่าวในการออกอากาศ

ฮุน เซนวางแผนส่งต่ออำนาจให้ลูกชายของเขามาเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง และฮุน มาเนต วัย 45 ปีก็ได้แสดงบทบาทนำในการรณรงค์หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ชาวกัมพูชาออกมาลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งที่ถูกมองว่าเป็นการจัดฉาก หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งตัดสิทธิ์ไม่ให้พรรคแสงเทียนลงทะเบียนเข้ารับการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยพรรคแสงเทียนถือเป็นคู่แข่งรายเดียวที่สามารถขับเคี่ยวกับพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุน เซนได้

รัฐบาลกัมพูชายกย่องผู้ออกมาลงคะแนนเสียงที่มีตัวเลขมากถึง 84.6% ว่า เป็นหลักฐานบ่งชี้ถึง "วุฒิภาวะทางประชาธิปไตย" ของประเทศ แต่มหาอำนาจตะวันตก รวมทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ประณามการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าไม่เสรีและไม่ยุติธรรม

ถึงแม้จะประกาศวางมือจากตำแหน่งผู้นำ แต่ฮุน เซนได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเขาจะยังคงมีบทบาทและอิทธิพลในการเมืองกัมพูชาต่อไป

ภายใต้การปกครองของฮุน เซน กัมพูชาได้ขยับตัวเองเข้าใกล้กับรัฐบาลปักกิ่งมากขึ้น โดยได้ประโยชน์จากการลงทุนและโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของจีน รวมถึงการพัฒนาฐานทัพเรือใหม่ที่ทำให้สหรัฐอเมริกาหวาดระแวง

อีกทั้งหลังการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ยังได้ส่งข้อความแสดงความยินดีเป็นการส่วนตัวแก่ฮุน เซน

แต่เงินที่ท่วมท้นของชาวจีนได้นำมาซึ่งปัญหา รวมทั้งการเกิดขึ้นของคาสิโนและการหลอกลวงทางออนไลน์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์

ด้านนักวิจารณ์กล่าวว่า การปกครองของฮุนเซนเต็มไปด้วยนโยบายที่เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและการรับสินบนที่หยั่งรากลึก

กัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 150 จาก 180 ประเทศ ในดัชนีการรับรู้การทุจริตขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ โดยในเอเชียมีเพียงเมียนมาและเกาหลีเหนือเท่านั้นที่มีอันดับต่ำกว่า

ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า ฮุน เซน ใช้ระบบกฎหมายเพื่อปราบปรามผู้ต่อต้านการปกครองของเขา รวมทั้งนักเคลื่อนไหวและผู้นำสหภาพแรงงาน ตลอดจนนักการเมืองฝ่ายค้านหลายคนที่ถูกตัดสินลงโทษและจำคุกในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในอำนาจ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' ปลื้ม 'มาครง' หนุนสานต่อสัญญาการค้า ตั้งกรุ๊ป Whatapp ร่วม 'ฮุน มาเน็ต' ไว้หารือ

'เศรษฐา' เยือนฝรั่งเศส เผยเวลาน้อยแต่คุ้ม บอก 'มาครง' พร้อมหนุนสานต่อสัญญา การค้า-ท่องเที่ยว- EV-พลังงานสะอาด ช่วยอัปเกรดกองทัพไทยภายใน 10 ปี ยกฝรั่งเศสเป็นแม่แบบพลังงานสะอาดนำใช้ในไทย ปลื้มสตรีหมายเลข 1 สวมชุดแดงทักทาย แย้มแลกเบอร์โทรพร้อมตั้งกรุ๊ป Whatapp ร่วม 'ฮุน มาเน็ต' ไว้หารือ