รัฐบาลมอสโกเผย จะไม่ขยายระยะเวลาข้อตกลงส่งออกธัญพืชของยูเครนและปล่อยให้หมดอายุลงทันที ไม่นานหลังจากเหตุสะพานไครเมียถูกโดรนโจมตีจนมีผู้เสียชีวิต
หน่วยสืบสวนกำลังทำงานบนสะพานเคิร์ชซึ่งเชื่อมไครเมียกับรัสเซีย ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักหลังถูกโดรนยูเครนโจมตี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม มีพลเรือนเสียชีวิต 2 ราย (Photo by RUSSIAN INVESTIGATIVE COMMITTEE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 17 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า ข้อตกลงที่ลงนามโดยยูเครนและรัสเซียในกรุงอิสตันบูลของตุรเคียเพื่อยกเลิกการปิดกั้นทะเลดำให้สามารถดำเนินการส่งออกธัญพืชของยูเครนได้อย่างปลอดภัย มีกำหนดหมดอายุในวันจันทร์ และผู้นำตุรเคียเพิ่งแจ้งว่าผู้นำรัสเซียยินดีขยายอายุข้อตกลงดังกล่าวออกไป
ล่าสุดรัฐบาลมอสโกประกาศยุติการขยายอายุข้อตกลงดังกล่าวซึ่งมีเลขาธิการสหประชาชาติและผู้นำตุรเคียช่วยเป็นคนกลางในการประสานงานมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว โดยกล่าวว่า 'ข้อตกลงธัญพืชยุติลงแล้ว และจะไม่มีการพูดคุยกันอีกจนกว่าข้อตกลงแลกเปลี่ยนอีกฉบับระหว่างรัสเซียกับสหประชาชาติที่มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกอาหารและปุ๋ยของรัสเซีย จะได้รับการปฏิบัติจนบรรลุผล" ตามคำแถลงของดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลฯ
เปสคอฟเสริมว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้เชื่อมโยงกับเหตุโดรนโจมตีสะพานไครเมีย (สะพานเคิร์ช) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาและทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 2 ราย
แม้การที่สะพานดังกล่าวถูกโจมตีและสร้างความเดือดดาลให้รัสเซียไม่น้อย แต่เปสคอฟยืนยันว่าการยุติข้อตกลงเกิดจากการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนให้กับฝั่งรัสเซียนานนับเดือน จนนำมาซึ่งการสิ้นสุดโครงการบรรเทาวิกฤติอาหารโลกของสหประชาชาติ
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลายชั่วโมงหลังจากโดรนโจมตีถนนสายเดียวที่เชื่อมระหว่างรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียที่ถูกผนวก ซึ่งเป็นเส้นทางส่งเสบียงสำคัญสำหรับกองกำลังแนวหน้ารัสเซียทางตอนใต้ของยูเครน และการโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของกองกำลังยูเครน
ทางการรัสเซียกล่าวว่า พลเรือนคู่หนึ่งเสียชีวิตและลูกสาวของพวกเขาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีสะพานแห่งนี้ซึ่งได้รับความเสียหายเช่นเดียวกับที่เคยระเบิดเมื่อปีที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า การจราจรบนสะพานถูกระงับและผู้ที่ต้องการเดินทางไปและกลับจากไครเมียถูกกำหนดให้เลือกใช้เส้นทางอื่นแทน
รัฐบาลระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินได้สั่งให้เร่งซ่อมแซมและบูรณะสะพานโดยเร็วที่สุด พร้อมให้การช่วยเหลือผู้คนที่ติดค้างท่ามกลางการจราจรที่ชะงักงันของสะพานดังกล่าว
ทั้งนี้ในช่วงปีที่ผ่านมา ข้อตกลงธัญพืชทำให้ยูเครนส่งออกพืชผลได้มากกว่า 32 ล้านตันผ่านฝูงเรือรบรัสเซียในทะเลดำมาได้อย่างปลอดภัย และธัญพืชส่วนใหญ่ถูกนำไปเลี้ยงผู้คนในประเทศกำลังพัฒนาในแอฟริกา, ตะวันออกกลาง และพื้นที่อื่น ๆ แต่การขนส่งเหล่านั้นต้องหยุดชะงักเนื่องจากรัสเซียปฏิเสธที่จะต่ออายุข้อตกลงจนถึงตอนนี้และได้แจ้งตุรเคีย, ยูเครน และสหประชาชาติแล้ว.
