ไฟป่าแคนาดาเผาผลาญพื้นที่กว่า 63 ล้านไร่ในปีนี้

ไฟป่าในแคนาดาเผาผลาญพื้นที่กว่า 63 ล้านไร่ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำลายสถิติสูงสุดของประเทศ และคาดว่ายอดความเสียหายจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ไฟป่าที่ลุกลามในเท็กซัส ครีก ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองลิลลูเอต ในรัฐบริติชโคลัมเบียของประเทศแคนาดา ประมาณ 27 กม. (Photo by BC Wildfire Service / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 15 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า ศูนย์ความร่วมมือป้องกันไฟป่าของแคนาดาเปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับความเสียหายของพื้นที่จากภัยพิบัติไฟป่าในปีนี้

10 ล้านเฮกตาร์ (ประมาณ 62.5 ล้านไร่) คือพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากการเผาผลาญของไฟป่าในแคนาดาตั้งแต่ต้นปี และทำลายสถิติความเสียหายสูงสุดของประเทศ

สถิติสูงสุดตลอดกาลก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในปี 2532 เมื่อพื้นที่ 7.3 ล้านเฮกตาร์ (ประมาณ 45.6 ล้านไร่) ถูกเผาผลาญตลอดทั้งปี ตามตัวเลขสถิติของศูนย์ความร่วมมือป้องกันไฟป่าฯ

นับตั้งแต่เดือนมกราคมของปี 2566 มีไฟป่าเกิดขึ้นทั้งหมด 4,088 ครั้ง ทั้งที่ก่อความเสียหายในวงแคบและความเสียหายในวงกว้าง และทำให้ผู้คนมากกว่า 150,000 คนต้องพลัดถิ่น

แม้ไฟลุกลามมักเกิดขึ้นในป่าที่ห่างไกลจากพื้นที่อยู่อาศัย แต่ก็ยังมีผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม

จนถึงวันเสาร์ มีไฟป่าที่ยังคุกรุ่นอยู่ 906 จุดในประเทศ ซึ่งรวมถึง 570 แห่งที่ยังควบคุมไฟไม่ได้ 100%

สถานการณ์เลวร้ายได้เปลี่ยนไปทั่วประเทศในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูไฟป่า รัฐอัลเบอร์ตาทางตะวันตกกลายเป็นศูนย์กลางของไฟป่ามากเป็นประวัติการณ์

หลายสัปดาห์ต่อมา สถานการณ์เริ่มลามไปยังรัฐโนวาสโกเชียทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของแคนาดา ตามมาด้วยรัฐควิเบกทางตะวันออกซึ่งเกิดไฟป่าครั้งใหญ่ทำให้เกิดควันพวยพุ่งปกคลุมพื้นที่บางส่วนของสหรัฐอเมริกา

ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม สถานการณ์พลิกผันอย่างมากในรัฐบริติชโคลัมเบีย โดยมีไฟป่ามากกว่า 250 จุดเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 3 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยส่วนใหญ่เกิดจากฟ้าผ่า

พื้นที่ส่วนใหญ่ของแคนาดากำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรง โดยมีฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหลายเดือนและอุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงขึ้นเพราะคลื่นความร้อน

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ประเทศแคนาดาจะร้อนเร็วกว่าส่วนอื่นๆ ของโลกเนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ และต้องเผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศที่รุนแรงด้วยความถี่ที่เพิ่มขึ้น.