พันธมิตรมหาอำนาจชาติตะวันตกจะเสนอข้อตกลงด้านความมั่นคงระยะยาวแก่ยูเครน หลังจากนาโตทำลายความหวังของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี เกี่ยวกับระยะเวลาที่ชัดเจนในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตร
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ปรากฏตัวในการประชุมสุดยอดผู้นำนาโต ในกรุงวิลนิอุส ประเทศลิทัวเนีย เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม (Photo by Odd ANDERSEN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 12 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางถึงกรุงวิลนิอุส ประเทศลิทัวเนีย เพื่อเข้าร่วมในการประชุมสุดยอดผู้นำนาโต
ผู้นำยูเครนจะจัดการเจรจากับผู้นำ 31 คนของชาติสมาชิก หลังก่อนหน้านี้หนึ่งวันเขาเพิ่งออกมาตำหนิกลุ่มคนดังกล่าวที่ไม่พยายามจริงจังกับกระบวนการเสนอยูเครนเข้าเป็นสมาชิกให้เร็วที่สุด
ในความพยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้กับเซเลนสกี ผู้นำกลุ่มประเทศจี7 จะออกแถลงการณ์ว่าพวกเขาจะช่วยให้กองกำลังยูเครนเอาชนะรัสเซียให้ได้ รวมไปถึงกระบวนการยับยั้งการรุกรานใหม่ ๆ ในอีกหลายปีข้างหน้า
การประกาศของจี7 จะกำหนดกรอบให้แต่ละประเทศทำข้อตกลงทวิภาคีกับรัฐบาลเคียฟในภายหลัง โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธที่พวกเขาจะมอบให้
อย่างไรก็ดี เซเลนสกียืนยันว่าประเทศของเขาต้องการเข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของนาโตมากกว่า และต้องการรับทราบข้อติดขัดหรือข้อปฏิบัติในการเป็นสมาชิกอย่างไม่ประวิงเวลา
ที่ผ่านมาพันธมิตรชาติตะวันตกได้สนับสนุนอาวุธมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ไปยังยูเครนเพื่อช่วยต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย และล่าสุดรัฐบาลเยอรมนีกล่าวว่าจะจัดหารถถัง, ระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออต และรถเกราะเพิ่มเติมมูลค่า 700 ล้านยูโรให้กับยูเครน เช่นเดียวกับรัฐบาลฝรั่งเศสที่กำลังจัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกล และพันธมิตรนาโต 11 ชาติประกาศว่าจะเริ่มฝึกนักบินยูเครนในปฏิบัติการเครื่องบินไอพ่น เอฟ-16 ตั้งแต่เดือนหน้า
บรรดาผู้นำนาโตยังให้คำมั่นหลังการประชุมสุดยอดวันแรกว่า "อนาคตของยูเครนอยู่ที่นาโต" และจะพยายามช่วยให้ขั้นตอนสุดท้ายที่รัฐบาลเคียฟต้องดำเนินการเพื่อเข้าร่วมเป็นพันธมิตร กระชับลง
"เราจะส่งคำเชิญไปยังยูเครนให้เข้าร่วมกลุ่ม เมื่อบรรดาพันธมิตรเห็นพ้องตามเงื่อนไข" ถ้อยแถลงระบุ
นาโตพยายามโน้มน้าวให้เซเลนสกีมั่นใจว่า แม้นาโตจะไม่กำหนดกรอบเวลาที่จะให้ยูเครนเข้าร่วมกลุ่ม แต่คำมั่นสัญญาด้านความมั่นคงเป็นลายลักษณ์อักษรจะแสดงให้ยูเครนเห็นว่าอาวุธของชาติตะวันตกจะยังคงหลั่งไหลต่อไป
และการที่ผู้นำยูเครนได้รับเชิญเป็นพิเศษในการประชุมสุดยอดผู้นำนาโตเกือบทุกครั้ง ถือเป็นการมีส่วนร่วมอย่างไม่เป็นทางการอยู่แล้ว.
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 12 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางถึงกรุงวิลนิอุส ประเทศลิทัวเนีย เพื่อเข้าร่วมในการประชุมสุดยอดผู้นำนาโต
ผู้นำยูเครนจะจัดการเจรจากับผู้นำ 31 คนของชาติสมาชิก หลังก่อนหน้านี้หนึ่งวันเขาเพิ่งออกมาตำหนิกลุ่มคนดังกล่าวที่ไม่พยายามจริงจังกับกระบวนการเสนอยูเครนเข้าเป็นสมาชิกให้เร็วที่สุด
ในความพยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้กับเซเลนสกี ผู้นำกลุ่มประเทศจี7 จะออกแถลงการณ์ว่าพวกเขาจะช่วยให้กองกำลังยูเครนเอาชนะรัสเซียให้ได้ รวมไปถึงกระบวนการยับยั้งการรุกรานใหม่ ๆ ในอีกหลายปีข้างหน้า
การประกาศของจี7 จะกำหนดกรอบให้แต่ละประเทศทำข้อตกลงทวิภาคีกับรัฐบาลเคียฟในภายหลัง โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธที่พวกเขาจะมอบให้
อย่างไรก็ดี เซเลนสกียืนยันว่าประเทศของเขาต้องการเข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของนาโตมากกว่า และต้องการรับทราบข้อติดขัดหรือข้อปฏิบัติในการเป็นสมาชิกอย่างไม่ประวิงเวลา
ที่ผ่านมาพันธมิตรชาติตะวันตกได้สนับสนุนอาวุธมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ไปยังยูเครนเพื่อช่วยต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย และล่าสุดรัฐบาลเยอรมนีกล่าวว่าจะจัดหารถถัง, ระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออต และรถเกราะเพิ่มเติมมูลค่า 700 ล้านยูโรให้กับยูเครน เช่นเดียวกับรัฐบาลฝรั่งเศสที่กำลังจัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกล และพันธมิตรนาโต 11 ชาติประกาศว่าจะเริ่มฝึกนักบินยูเครนในปฏิบัติการเครื่องบินไอพ่น เอฟ-16 ตั้งแต่เดือนหน้า
บรรดาผู้นำนาโตยังให้คำมั่นหลังการประชุมสุดยอดวันแรกว่า "อนาคตของยูเครนอยู่ที่นาโต" และจะพยายามช่วยให้ขั้นตอนสุดท้ายที่รัฐบาลเคียฟต้องดำเนินการเพื่อเข้าร่วมเป็นพันธมิตร กระชับลง
"เราจะส่งคำเชิญไปยังยูเครนให้เข้าร่วมกลุ่ม เมื่อบรรดาพันธมิตรเห็นพ้องตามเงื่อนไข" ถ้อยแถลงระบุ
นาโตพยายามโน้มน้าวให้เซเลนสกีมั่นใจว่า แม้นาโตจะไม่กำหนดกรอบเวลาที่จะให้ยูเครนเข้าร่วมกลุ่ม แต่คำมั่นสัญญาด้านความมั่นคงเป็นลายลักษณ์อักษรจะแสดงให้ยูเครนเห็นว่าอาวุธของชาติตะวันตกจะยังคงหลั่งไหลต่อไป
และการที่ผู้นำยูเครนได้รับเชิญเป็นพิเศษในการประชุมสุดยอดผู้นำนาโตเกือบทุกครั้ง ถือเป็นการมีส่วนร่วมอย่างไม่เป็นทางการอยู่แล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นาโต' เตือนเกาหลีเหนือ กรณีส่งกองทหารช่วยเหลือรัสเซีย
ยูเครนและเกาหลีใต้รายงานว่า มีทหารเกาหลีเหนือมากถึง 12,000 นายเข้าร่วมสงครามช่วยเหลือประธานาธิบดีปูติน จนถึง