ประธานาธิบดีอุซเบกิสถานครองอำนาจต่อเนื่องสมัย 3 หลังชนะการเลือกตั้งท่วมท้น

การเลือกตั้งประธานาธิบดีล่าสุดของอุซเบกิสถานได้ผู้นำคนเดิม หลังจากประชาชนเทคะแนนให้อย่างท่วมท้นจากผลนับคะแนนเบื้องต้น

ชัฟคัต มีร์ซีโยเยฟ ประธานาธิบดีและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของอุซเบกิสถาน ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นและกลับมาครองตำแหน่งผู้นำประเทศอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม (Photo by Handout / Uzbek Presidential Press Service / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 10 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีชัฟคัต มีร์ซีโยเยฟ ของอุซเบกิสถาน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งล่าสุด ทำให้เขากลับมายึดครองตำแหน่งผู้นำดินแดนในรัฐเอเชียกลางที่มีการปกครองอย่างเข้มงวดและอุดมด้วยน้ำมันได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน

มีร์ซีโยเยฟวัย 65 ปี ให้คำมั่นว่าจะเปิดประเทศอุซเบกิสถานสำหรับการลงทุนและการท่องเที่ยวจากต่างชาติ และดำเนินการปฏิรูปภายในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียกลางแห่งนี้

มีร์ซีโยเยฟลงแข่งกับผู้สมัครที่ไม่มีใครรู้จักถึง 3 คน และชนะการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ด้วยคะแนนเสียง 87% ตามผลการนับคะแนนเบื้องต้น

ก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายใต้ผู้นำกลุ่มหัวรุนแรงอย่างอิสลาม คารีมอฟ ก่อนที่จะได้รับชัยชนะเป็นสมัยแรกในปี 2559 และได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2564

การลงประชามติตามรัฐธรรมนูญในปีนี้ปูทางให้เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 2 วาระ และเพิ่มอำนาจหน้าที่จาก 5 ปีเป็น 7 ปี ซึ่งหมายความว่าเขาจะอยู่ในอำนาจจนถึงปี 2580

ทั้งนี้ อุซเบกิสถานเคยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตมาก่อน โดยมีที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ติดกับอัฟกานิสถาน และอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ระหว่างรัสเซียและจีน ซึ่งตัวมีร์ซีโยเยฟเองก็ได้รับการแสดงความยินดีในชัยชนะจากทั้งประธานาธิบดีปูตินและสีจิ้นผิง

มีร์ซีโยเยฟ อดีตวิศวกรผู้เขียนบทบาทตัวเองในฐานะนักปฏิรูปที่สร้าง "อุซเบกิสถานใหม่" กล่าวว่า เขาต้องการเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเพิ่มเป็นสองเท่าหรือมูลค่ารวม 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.6 ล้านล้านบาท) ในเร็วๆ นี้

ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เขายังมุ่งเน้นด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุนด้านการศึกษา

ก่อนหน้านี้ เขาได้ยุติการใช้บังคับใช้แรงงานในไร่ฝ้ายของอุซเบกิสถาน และปล่อยตัวนักโทษการเมืองที่ถูกคุมขังระหว่างการปกครองของอดีตประธานาธิบดีคารีมอฟ

แม้องค์กรพัฒนาเอกชนกล่าวว่าสิทธิมนุษยชนของประชาชนภายใต้การนำของมีร์ซีโยเยฟนั้นดีกว่ายุคสมัยของคารีมอฟ แต่ก็ยังมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกมาก และทางการก็แสดงท่าทีว่าจะไม่ยอมให้มีการประท้วงหรือต่อต้านใดๆอย่างแท้จริง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สนค.แนะผู้ประกอบการเจาะตลาดส่งออกใหม่ภูมิภาคเอเชียกลาง

สนค. วิเคราะห์สินค้าไทยที่มีโอกาสในการเจาะตลาดเอเชียกลางด้วย Data Analytics Dashboard บนเว็บไซต์ คิดค้า.com พบ “กลุ่มรถยนต์” และ “ยางยานพาหนะ” เป็นสินค้าดาวเด่น มีโอกาสส่งออกและขยายตลาด “คอมพิวเตอร์” และ “เครื่องปรับอากาศ” เป็นสินค้าศักยภาพ แต่ส่วนแบ่งไทยยังน้อย สามารถเพิ่มได้อีก ส่วน “ไก่” และ “น้ำตาลทราย” เป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง ไทยควรเข้าไปเจาะตลาดเพิ่ม