ฝนตกหนักถล่มภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เสียชีวิตแล้ว 15 ราย

มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และสูญหายอีก 4 คน หลังฝนตกกระหน่ำมหานครฉงชิ่งและพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

หน่วยกู้ภัยของทางการจีนอพยพผู้อยู่อาศัยออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลังเกิดฝนตกหนักในมหานครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 5 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า ประเทศจีนได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่รุนแรงมาหลายสัปดาห์แล้ว ตั้งแต่ฝนตกหนักไปจนถึงคลื่นความร้อนจัด

ประชาชนในเมืองหลวงปักกิ่งและพื้นที่อื่นๆ อีกหลายสิบแห่งได้รับคำเตือนให้อยู่แต่ในที่ร่มเนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 35 องศาเซลเซียส

ล่าสุด ฝนที่ตกหนักในมหานครฉงชิ่งในสัปดาห์นี้ ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 15 ราย และสูญหายอีก 4 คน ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

สำนักข่าวซินหัวระบุว่า ฝนตกหนักในพื้นที่ส่วนใหญ่ริมแม่น้ำแยงซี ทำให้เกิดน้ำท่วมและภัยพิบัติทางธรณีวิทยา ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนกว่า 130,000 คนใน 19 อำเภอและมณฑล

ภาพจากสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันอังคาร แสดงให้เห็นกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวในเขตว่านโจวของฉงชิ่ง ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจนล้นตลิ่งและเศษขยะกลาดเกลื่อนไปทั่ว

เช่นเดียวกับภาพความพยายามในการช่วยเหลือของหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินที่ช่วยชาวบ้านอพยพออกจากอาคารที่อยู่อาศัยที่ถูกน้ำท่วม

ในเขตชานเมืองของฉงชิ่ง สะพานทางข้ามรถไฟพังถล่มลงมาหลังจากที่ได้รับความเสียหายเพราะผลกระทบของกระแสน้ำจากภูเขา

รัฐบาลได้ส่งคณะทำงานไปยังฉงชิ่งในเช้าวันพุธเพื่อดูแลการบรรเทาสาธารณภัย

หน่วยงานสภาพอากาศของจีนเตือนว่า ประเทศเตรียมเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติอีกหลายครั้งในเดือนกรกฎาคม ซึ่งรวมถึงน้ำท่วม, สภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง, พายุไต้ฝุ่น และคลื่นความร้อน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเตรียมพร้อมสูงสุดในการรับรองความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชน

กระทรวงการคลังของจีนได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินจำนวน 320 ล้านหยวน (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) เพื่อบรรเทาสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นจะใช้ในการสนับสนุนการค้นหาและกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน

ในมณฑลเสฉวนที่อยู่ใกล้เคียง ทางการระบุว่า มีผู้ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในเดือนนี้มากกว่า 460,000 คน

ประชาชนราว 85,000 คนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยเนื่องจากฝนตกหนัก และได้รับคำเตือนว่าจะเกิด "น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ภูเขา" และ "ดินโคลนถล่มบางส่วน" ในสัปดาห์นี้

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง เช่น น้ำท่วมฉับพลันและคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชียช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 2 เตือนพื้นที่ฝนตกหนักในภาคใต้ ระวังอันตรายคลื่นลมแรง 15-18 ม.ค.

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 15-18 มกราคม 2568) ฉบับที่ 2

พยากรณ์อากาศ 15 วันล่วงหน้า ลมหนาวยังพัดแรง ใต้มีฝนเพิ่มตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 13 - 27 ม.ค. 68

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 11 เตือนหนาวจัดลมแรง ทะเลคลื่นสูง 4 เมตร

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน

อุตุฯ เตือนอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิลดลงอีก ใต้ฝนฟ้าคะนอง 10-20%

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด

พยากรณ์อากาศ 15 วันล่วงหน้า ลมหนาวพัดแรง ยาวถึงปลายเดือน

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 10 - 24 ม.ค. 68

ประกาศกรมอุตุฯ ฉบับ 5 อากาศหนาวลดฮวบ 3-7 องศา คลื่นลมแรงสูง 4 เมตร

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568) ฉบับที่ 5