มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 19 รายหลังเกิดอุทกภัยจากลมมรสุมประจำปีในเอเชียใต้ โดยฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ทำให้ผู้คนหลายพันคนต้องไปหาที่หลบภัยในอินเดีย

ชายคนหนึ่งอุ้มแพะของเขาขณะลุยน้ำท่วมในเมืองรังเกีย รัฐอัสสัมของอินเดีย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน (Photo by Biju BORO / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า ฤดูมรสุมในเอเชียใต้นำพาลมกรรโชกแรงและฝนตกหนักในหลายพื้นที่
แม้น้ำท่วมจะเป็นเรื่องปกติและก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้างในช่วงฤดูมรสุมที่เลวร้าย แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเพิ่มความถี่, ความดุร้าย และคาดเดาไม่ได้
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วในเนปาลเพิ่มขึ้นเป็น 14 ราย โดยยังคงสูญหายอีกกว่า 24 คน
นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 4 ราย หลังจากน้ำท่วมและดินถล่มในรัฐอรุณาจัลประเทศ บนเทือกเขาหิมาลัยอันห่างไกลของอินเดีย
หน่วยงานด้านภัยพิบัติของรัฐอัสสัมที่อยู่ใกล้เคียงระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 1 รายจากการจมน้ำเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี โดยมีหมู่บ้านมากกว่า 1,300 แห่งถูกน้ำท่วม ขณะที่ประชาชนราว 14,000 คนถูกอพยพออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงฉุกเฉิน
ขณะที่ประเทศบังกลาเทศเริ่มเตรียมตัวแล้วเช่นกัน หลังจากนักพยากรณ์เตือนว่าอาจเกิดน้ำท่วมในเขตทางตอนเหนือที่มีพรมแดนติดกับอินเดีย และจนถึงขณะนี้มีอย่างน้อย 20,000 ครอบครัวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มรอบเขตทางตอนเหนือของคุริกรัม
"แม่น้ำสายหลักในภูมิภาคกำลังเอ่อล้น" ผู้บริหารเขตคุริกรัมกล่าวกับเอเอฟพี และเสริมว่า "สถานการณ์อาจเลวร้ายลงได้ทุกเมื่อหากกระแสน้ำจากต้นน้ำเพิ่มขึ้น"
ลมมรสุมฤดูร้อนของเอเชียเป็นลมทะเลขนาดมหึมาที่ทำให้เอเชียใต้มีฝนตก 70-80%ต่อปี ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายนของทุกปี
ถึงแม้ฝนจะมีความสำคัญต่อการเกษตรและการดำรงชีวิตของเกษตรกรหลายล้านคน รวมทั้งความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคที่มีประชากรประมาณ 2,000 ล้านคน แต่มันก็ยังนำมาซึ่งการทำลายล้างทุกปีด้วยเช่นกัน จากทั้งดินถล่มและน้ำท่วม
ภัยพิบัติมรสุมน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้วทำให้พื้นที่ 1 ใน 3 ของปากีสถานจมอยู่ใต้น้ำ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน 2 ล้านหลัง และคร่าชีวิตผู้คนกว่า 1,700 ราย
บังกลาเทศเองก็ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ในปีเดียวกัน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนกว่า 100 ราย และทำให้อีก 7 ล้านคนต้องสูญเสียที่พักพิงและวิถีชีวิตเดิม ขณะที่ความพยายามบรรเทาทุกข์ยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายเดือน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนเพิ่มตกหนักถึงหนักมาก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
กต. เร่งชี้แจงทูตอินเดีย รื้อถอนสิ่งก่อสร้างเพื่อควบคุมพื้นที่ ไม่ใช่เทวสถาน
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการประชุม เช่น วานนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กองทัพแจงรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแปลกปลอมในพื้นที่อธิปไตยไทย ไม่ใช่ศาสนสถาน
ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ตามที่มีการเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีลักษณะคล้ายประติมากรรมทางศาสนา ในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนไทย–กัมพูชา จนก่อให้เกิดความห่วงกังวลและการตีความที่หลากหลายในสังคมนั้น
นายกฯ ลั่นทำลายรูปปั้นสัญลักษณ์เขมร เทียบไม่ได้กับทหารไทยขาขาด มองอินเดียตำหนิ ให้เป็นเรื่องแค่ 2 ประเทศ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ภายหลังมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC ระดับเลขานุการ ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ จ.จันทบุรี
'นักข่าวเทวดา' ซัดทหารไทยเมาสงคราม สื่อ-กองเชียร์สิ้นคิดทำลายรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู จี้รัฐบาลขอโทษอินเดียด่วน
นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักเคลื่อนไหว และผู้สื่อข่าวประจำข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นี่ก็อาการเมาสงคราม! ถามจริง ตอนนี้เมาจนสังคมขาดสติ ไม่รู้ว่าทำอะไรไปบ้าง และสร้างความรู้สึกยี้ให้กับต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ?

