เรื่องราวเกี่ยวกับแล็ปท็อปของ ฮันเตอร์ ไบเดน เคยปรากฏเป็นข่าวทางสถานี Fox News และหนังสือพิมพ์ New York Post ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020 ว่าข้อมูลเอกสารต่างๆ ในโน้ตบุ๊กเครื่องนั้นเผยให้เห็นความไม่ชอบมาพากลในครอบครัวไบเดน ในขณะที่สำนักข่าว CNN หรือหนังสือพิมพ์ Washington Post กลับนำเสนอข่าวนี้เพียงสั้นๆ นอกกรอบข่าวที่น่าสนใจ นั่นก็สะท้อนถึงสังคมสื่ออเมริกันเหมือนกันว่าแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ข่าวเกี่ยวกับแล็ปท็อป Macbook Pro รุ่นปี 2015 เครื่องนั้นก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้จู่ๆ Washington Post รวมทั้งสื่อฝั่งซ้ายอย่าง New York Times ต่างพากันมาร่วมวงด้วย พร้อมยืนยันข้อมูลว่าเป็นจริง
จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2019 ในร้านคอมพิวเตอร์เล็กๆ ในรัฐเดลาแวร์ มีชายคนหนึ่งเข้าไปพบ จอห์น แม็ค ไอแซค-เจ้าของร้าน เพื่อนำแล็ปท็อปส่งซ่อม ชายคนนั้นแจ้งชื่อตนเองว่า ฮันเตอร์ ไบเดน ช่างประจำร้านทำการซ่อมแล็ปท็อปและกู้ข้อมูลเครื่องไว้ได้ แต่ฮันเตอร์ ไบเดน เจ้าของเครื่องไม่ได้หวนกลับไปที่ร้านอีกเลย เมื่อแม็ค ไอแซคดูข้อมูลที่เซฟได้จากเครื่องเขาจึงเกิดความสงสัย นอกเหนือจากรูปภาพและคลิปวิดีโอแล้ว เขายังพบเมลธุรกิจและใบแจ้งยอดจากธนาคารอีกนับไม่ถ้วน จากนั้นเขาก็ส่งแล็ปท็อปเครื่องนั้นให้กับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ไม่ช้าต่อมาก็ส่งสำเนาข้อมูลทั้งหมดให้กับ รูดี้ จุยลิอานี-ทนายคนสนิทของโดนัลด์ ทรัมป์ และแล้วมันก็ไปถึงสื่อ
เดือนตุลาคม 2020 ก่อนการเลือกตั้ง หนังสือพิมพ์ New York Post เปิดเผยบทความเกี่ยวกับข้อมูลลับจากแล็ปท็อป รวมถึงอีเมลที่ฮันเตอร์ ไบเดนติดต่อเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจชาวยูเครนและจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าฮันเตอร์ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่การงานของพ่อเขาอย่างไร ระหว่างที่โจ ไบเดนดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ปี 2009-2017) ฮันเตอร์ได้ดีลธุรกิจมูลค่านับล้านกับคู่ค้าในประเทศที่พ่อของเขาเดินทางไปทำภารกิจ ซึ่งเรื่องนี้โจ ไบเดนก็ถูกกล่าวหาว่าได้รับประโยชน์ทางการเงินเช่นกัน
ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายคนสุดท้องวัย 53 ปีและหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัวไบเดน ตกเป็นเป้าสายตาของคู่แข่งทางการเมืองอย่างทรัมป์มานานแล้ว ยิ่งมีข่าวว่าติดยาและมีแนวโน้มว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายที่น่าจับตา ก่อนถึงวันเลือกตั้ง ไม่มีวันไหนเลยที่จะผ่านไปโดยที่สื่อของฝ่ายทรัมป์ไม่ขยี้ข่าวเรื่องแล็ปท็อปของฮันเตอร์ ไบเดน ส่วนตัวทรัมป์เองนั้นเขาเรียกมันว่า ‘แล็ปท็อปจากนรก’
ช่วงกลางปีที่แล้วเรื่องเกี่ยวกับแล็ปท็อปปรากฏในสื่ออีกครั้ง แต่น่าแปลกตรงที่คราวนี้ New York Times เผยแพร่บทความเรื่องฮันเตอร์ ไบเดนว่าเกี่ยวข้องกับการหลบเลี่ยงภาษีและการฟอกเงิน เนื้อหาในบทความกล่าวถึงงานค้นคว้าข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากอีเมลที่พบในแล็ปท็อป ซึ่งขณะนี้หนังสือพิมพ์ได้ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารบางส่วนแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน Washington Post ก็โจมตีด้วยบทความหลายชิ้น นอกจากนั้นยังให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสำเนาฮาร์ดไดรฟ์ที่หนังสือพิมพ์บอกว่าเพิ่งได้รับเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2021
ฝ่ายตรวจสอบของสื่ออิสระทั้งสองค่ายทำการตรวจสอบเนื้อหาและสามารถพิสูจน์อีเมลได้หลายพันฉบับ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่สามารถสืบค้นที่มาของเอกสารที่เหลือได้ ผู้เชี่ยวชาญยังพบว่ามีการลบและทำลายข้อมูลบางส่วนในเครื่อง และแม้ว่าความถูกต้องของเอกสารบางส่วนได้รับการยืนยันแล้วก็ตาม แต่ยังไม่สามารถตั้งข้อกล่าวหาต่อโจ ไบเดนได้ อย่างดีก็ทำได้แค่สาดแสงไฟไปที่ฮันเตอร์ ไบเดน ผู้ได้รับประโยชน์จากชื่อเสียงและตำแหน่งของผู้เป็นพ่อ
สำนักข่าว AFP รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ฮันเตอร์ ไบเดนให้การยอมรับต่ออัยการกลางในรัฐเดลาแวร์ข้อหาหลบเลี่ยงภาษี รวมถึงข้อหาครอบครองอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมาย และพฤติกรรมการใช้ยาเสพติดของเขาด้วย
แต่ฮันเตอร์ ไบเดนไม่เพียงแต่ถูกตีแผ่เรื่องฉาวทางการเมืองหรือเรื่องธุรกิจน่าสงสัยเท่านั้น หากยังลามไปถึงพฤติกรรมนอกรีตนอกรอยของเขาด้วย เมื่อสื่อพบว่ามีคลิปภาพระหว่างเขาเสพแคร็ก มั่วเซ็กซ์กับโสเภณี แก้ผ้าลงเล่นน้ำในสระ หรืออวดอวัยวะเพศของตนเอง รวมถึงคลิปภาพถือปืนเถื่อน ดูขัดแย้งกับกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนที่โจ ไบเดน-พ่อของเขาพยายามผลักดัน
…ทั้งหมดนั้นมีต้นเหตุมาจาก ‘แล็ปท็อปจากนรก’ เครื่องเดียว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กมลา แฮร์ริส ตีตัวออกห่างจากความเห็นเรื่อง 'ขยะ' ของไบเดน
โดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์ อ้างว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวดูถูกแฟนคลับของทรัมป์ว่าเป็น “ขยะ” เรื่องนี้ทำเนียบ