เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เดินทางถึงท่าเรือเกาหลีใต้

เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ เดินทางถึงเมืองท่าปูซานของเกาหลีใต้แล้ว แสดงให้เห็นถึงพันธะสัญญาของรัฐบาลวอชิงตันที่จะตอบโต้ภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ

เรือดำน้ำขีปนาวุธนำวิถีพลังงานนิวเคลียร์ชั้นโอไฮโอยูเอสเอส มิชิแกน (USS Michigan) เดินทางถึงท่าเรือของกองทัพเรือเกาหลีใต้ในเมืองปูซาน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน (Photo by YONHAP / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ เดินทางถึงท่าเรือเมืองปูซานของเกาหลีใต้แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ ภายใต้พื้นฐาน 'ปฏิญญาวอชิงตัน' ที่ผู้นำสหรัฐและผู้นำเกาหลีใต้ตกลงร่วมกันเมื่อเดือนเมษายน ที่มุ่งป้องปรามการทดสอบขีปนาวุธและคลังแสงนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 เกาหลีอยู่ในจุดตกต่ำที่สุด โดยการเจรจาทางการทูตหยุดชะงัก อีกทั้งคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือประกาศว่าประเทศของเขาเป็นรัฐนิวเคลียร์ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้และเรียกร้องให้พัฒนาอาวุธต่อไปซึ่งหมายรวมถึงนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี

ในการตอบสนองการคุกคามของรัฐบาลเปียงยาง เกาหลีใต้และสหรัฐฯประกาศกร้าวว่าจะตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์เช่นกัน และเกาหลีเหนือจะต้องพบจุดจบหากมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์กับประเทศพันธมิตร

คิม มยองซู ผู้บัญชาการกองเรือเกาหลีใต้ ชี้ว่าคำมั่นสัญญาของรัฐบาลวอชิงตันที่จะขยายยุทธวิธีป้องปรามไปยังเกาหลีใต้นั้นได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ

การมาถึงของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ยูเอสเอส มิชิแกน (USS Michigan) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถีชั้นโอไฮโอนั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อปฏิบัติตามปฏิญญาวอชิงตันอย่างจริงจังในการเพิ่มขีดความสามารถด้านตรวจตราทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ บนคาบสมุทรเกาหลี ตามการระบุของผู้บัญชาการกองเรือเกาหลีใต้

คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ว่า "การนำเรือดำน้ำเข้าเทียบท่าที่ปูซานจะช่วยให้เกาหลีใต้และสหรัฐสามารถวางแผนเสริมศักยภาพด้านสงครามพิเศเพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือผ่านการฝึกซ้อมสงครามพิเศษร่วมกัน"

ยูเอสเอส มิชิแกน มีขนาด 18,000 ตัน, มีความยาวประมาณ 170 เมตร (560 ฟุต) และสามารถติดตั้งขีปนาวุธโทมาฮอว์กได้ 150 ลูกในระยะ 2,500 กิโลเมตร

เกาหลีเหนือท้าทายมาตรการคว่ำบาตรมาตลอดในระยะหลัง ทั้งการยิงทดสอบขีปนาวุธ, ส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหารขึ้นสู่วงโคจร และล่าสุดเพิ่งยิงขีปนาวุธ 2 ลูกไปตกในน่านน้ำญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี.

เพิ่มเพื่อน