ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีผู้พลิกโฉมภูมิทัศน์ทางการเมืองและวัฒนธรรมของอิตาลี ที่มาพร้อมเรื่องอื้อฉาวทางกฎหมายและเรื่องฉาวทางเพศมากมาย ถึงแก่อสัญกรรมแล้วด้วยวัย 86 ปี
อดีตนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ของอิตาลี (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีของอิตาลี ถึงแก่อสัญกรรมแล้วด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือด
อดีตนายกฯ วัย 86 ปี เจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดชนิดหายากมาเป็นเวลานาน และเสียชีวิตจากการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลซึ่งกลายเป็นครั้งสุดท้าย
แบร์ลุสโคนีเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในมิลานตั้งแต่วันศุกร์ เพื่อรับการตรวจเพิ่มเติมด้านมะเร็งเม็ดเลือดขาว โดยเขาเพิ่งใช้เวลานาน 6 สัปดาห์ในโรงพยาบาลดังกล่าว ก่อนที่แพทย์จะเปิดเผยว่าเขาเป็นมะเร็งเม็ดเลือดชนิดหายาก
ในช่วงปีหลัง เขาเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ตั้งแต่การผ่าตัดหัวใจในปี 2559 ไปจนถึงการรักษาตัวจากโรคโควิด-19 ในปี 2563 แม้จะได้รับเลือกเข้าสู่วุฒิสภาอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว แต่เขาก็ไม่ค่อยปรากฏตัวในที่สาธารณะ
เขายังคงกุมบังเหียนพรรคฟอร์ซาอิตาเลีย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาในรัฐบาลผสมชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีหญิงจอร์เจีย เมโลนี
หลังทราบข่าวการจากไปของแบร์ลุสโคนี นายกฯหญิงได้กล่าวยกย่องอดีตผู้นำคนนี้ว่าเป็นนักสู้ที่อยู่เหนือนักสู้ทุกคน
"เขาเป็นคนที่ไม่กลัวการปกป้องความเชื่อมั่นของตัวเอง และนั่นคือความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่ทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้ชายที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิตาลี" เมโลนีกล่าว
ร่างของแบร์ลุสโคนีถูกเคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาลไปยังวิลลาซานมาร์ติโน ซึ่งเป็นบ้านพักของเขาใกล้เมืองมิลาน โดยมีชาวอิตาลีจำนวนมากร่วมไว้อาลัยด้วยการวางดอกไม้และข้อความว่า "เราจะคิดถึงคุณ" ที่ด้านนอกบ้านหลังดังกล่าว
พิธีศพของเขาจะจัดขึ้นในวันพุธ ที่มหาวิหารดูโอโมในเมืองมิลาน แม้ยังไม่มีการประกาศรายละเอียดงานศพ แต่แบร์ลุสโคนีได้สร้างสุสานหินอ่อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุสานฟาโรห์ที่วิลล่าของเขาในเมืองอาร์โคเร ใกล้เมืองมิลาน เพื่อเป็นที่พำนักสุดท้ายของครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเขา เมื่อเสียชีวิตลง
บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ เช่น รัสเซีย, ฮังการี และอิสราเอล ต่างออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจกับการจากไปของอดีตนายกฯผู้เป็นทั้งนักสู้และเพื่อนแท้
แบร์ลุสโคนีดำรงตำแหน่งนายกฯอิตาลี 3 สมัยในช่วงระหว่างปี 2537-2554 เป็นเวลารวม 9 ปี ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าสร้างความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกบีบออกจากตำแหน่งเมื่อวิกฤตหนี้เข้าครอบงำอิตาลี
แต่ชื่อเสียงของเขาขยายไปไกลกว่าแค่แวดวงการเมือง ความสนใจในแวดวงโทรทัศน์, หนังสือพิมพ์ และความคลั่งไคล้กีฬาของเขา สร้างอิทธิพลให้กับตัวเขาอย่างกว้างขวาง รวมทั้งชื่อเสียงด้านลบจากเรื่องผู้หญิงและเรื่องราวทางเพศที่เป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง แม้แต่ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต
แบร์ลุสโคนีเป็นคนที่มีเสน่ห์, ตลกขบขัน และเข้าใจสิ่งที่คนอื่นต้องการเป็นอย่างดี เขาใช้สื่อในการสร้างภาพของตัวเองในฐานะชายผู้แข็งแกร่ง ให้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ นำไปใช้ในเวลาต่อมา
ล่าสุดรัฐบาลอิตาลีประกาศให้วันพุธนี้เป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ ซึ่งจะมีการจัดงานศพของอดีตนายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี
"รัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 14 มิถุนายนเป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ ในขณะที่ธงชาติอิตาลีและธงยุโรปทั้งหมดตามอาคารสาธารณะจะถูกลดระดับลงครึ่งเสาทั่วประเทศตั้งแต่วันจันทร์" โฆษกรัฐบาลกล่าวในแถลงการณ์.