ญี่ปุ่นแก้กม.เนรเทศผู้ลี้ภัยง่ายขึ้น

ญี่ปุ่นเริ่มบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองฉบับแก้ไขเมื่อวันศุกร์ ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลเนรเทศผู้ไม่ผ่านการขอลี้ภัยครบ 3 ครั้ง แม้ว่าพรรคฝ่ายค้านและกลุ่มสิทธิมนุษยชนจะคัดค้านกฎหมายฉบับนี้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ญี่ปุ่นเริ่มบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองฉบับแก้ไข เมื่อวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566  

ก่อนกฎหมายคนเข้าเมืองฉบับแก้ไขผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา ผู้ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยในญี่ปุ่นสามารถอยู่ในประเทศได้ระหว่างกระบวนการตัดสินใจของทางการญี่ปุ่น โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาพยายามรักษาสถานะผู้ลี้ภัยมาแล้วกี่ครั้งก็ตาม

แต่ปัจจุบันเมื่อกฎหมายนี้บังคับใช้ รัฐบาลญี่ปุ่นสามารถเนรเทศผู้ยื่นขอลี้ภัยได้หลังจากการยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยของเขาถูกปฏิเสธ 3 ครั้ง

เคน ไซโตะ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น กล่าวว่า กฎหมายคนเข้าเมืองฉบับแก้ไขนี้จะปกป้องผู้ที่ต้องได้รับการปกป้อง ขณะเดียวกันก็จัดการผู้ละเมิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด

รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่นกล่าวด้วยว่า มีผู้ขอลี้ภัยจำนวนมากที่ใช้ระบบสมัครยื่นขอลี้ภัยไปในทางที่ผิดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเนรเทศ โดยที่พวกเขาไม่ได้หลบหนีจากภัยอันตรายหรือการกดขี่ข่มเหงเพื่อมาขอลี้ภัยอยู่ในญี่ปุ่น

เมื่อปีที่แล้วญี่ปุ่นอนุมัติสถานะผู้ขอลี้ภัยเพียง 202 ราย จากผู้ที่ยื่นขอลี้ภัยในญี่ปุ่นราว 12,000 คน นอกจากนี้แล้วทางการญี่ปุ่นให้ชาวต่างชาติพำนักในประเทศ 1,760 คน ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม

ในปีที่แล้วเช่นกัน รัฐบาลญี่ปุ่นรับผู้อพยพชาวยูเครนมากกว่า 2,400 คน ภายใต้กรอบการทำงานที่แตกต่างกัน

นักเคลื่อนไหวจัดชุมนุมต่อต้านร่างกฎหมายฉบับแก้ไขนี้ รวมถึงพันธมิตรพรรคฝ่ายค้านที่คัดค้านการแก้ไขกฎหมายนี้ แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา โหวตผ่านร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้

ความวุ่นวายเกิดขึ้นในรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี เมื่อ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านเข้าไปล้อมรอบประธานกรรมาธิการที่อภิปรายร่างแก้ไขกฎหมายนี้ และพยายามสกัดไม่ให้มีการโหวตแก้ไขกฎหมาย

ด้านสมาคมเนติบัณฑิตยสภาโตเกียวระบุในสัปดาห์นี้ว่า เป็นเรื่องไม่อาจทนได้ที่จะเนรเทศผู้ขอลี้ภัย แม้ว่าผู้นั้นจะมีประวัติอาชญากรรม ที่อาจเป็นการเนรเทศ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของพวกเขา และประเทศที่เขาถูกเนรเทศอาจทำให้ชีวิตและเสรีภาพของเขาตกอยู่ในอันตราย

ด้านพรรคเสรีประชาธิปไตยที่เป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่น กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมือง จะทำให้การเข้าถึงการรักษาพยาบาลและตัวเลือกที่พักดีขึ้นสำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างการยื่นขอลี้ภัย

สภาพการควบคุมตัวผู้อพยพในญี่ปุ่นโดนตรวจสอบอย่างละเอียด หลังการเสียชีวิตของวิชมา ซันดามาลี หญิงศรีลังกา วัย 33 ปี ระหว่างถูกควบคุมตัวเมื่อปี 2564

ซันดามาลีไม่ใช่ผู้ขอลี้ภัย แต่ถูกควบคุมเนื่องจากวีซ่าของเธอหมดอายุ หลังจากเธอมาขอความคุ้มครองจากตำรวจ โดยมีรายงานว่าเธอหลบหนีความสัมพันธ์ที่เป็นอันตราย

มีรายงานว่า เธอบอกกับเจ้าหน้าที่หลายครั้งว่าเธอปวดท้องและมีอาการป่วยอย่างอื่น ด้านนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่าเธอไม่ได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างเพียงพอ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วี  ธนาศิวณัฐ' แชมป์'ฮอนด้า วัน เมค เรซ2024' คว้ารองชนะเลิศที่ญี่ปุ่น

“ฮอนด้า วันเมคเรซ 2024” โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) หลังปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ดวลสนามสุดท้ายที่ สงขลา สตรีท เซอร์กิต  ซึ่งแชมป์คนล่าสุด “วี” ธนาศิวณัฐ พงสินนัชอาชัญ นักขับฟอร์มแรงจาก PT Autobacs X Mugen Thailand ที่สร้างผลงานระดับมาสเตอร์เหมาชัยชนะไปครั้งทั้ง 2 เรซ ผงาดแชมป์ประจำปีโอเวอร์ออลล์ พร้อมคว้ารางวัลในโปรเจ็กต์พิเศษ แลกเปลี่ยนนักแข่งทั้งสองประเทศ ได้สิทธิ์ร่วมทีม M&K Racing จากประเทศญี่ปุ่นลุยศึก ซูเปอร์ ไทคิว 2024 สนามสุดท้ายที่ สนามฟูจิ สปีดเวย์ 

'นีลา อิบราฮิมิ' นักเคลื่อนไหวชาวอัฟกานิสถานได้รับรางวัล Children‘s Peace Prize

นีลา อิบราฮิมิ นักเคลื่อนไหวชาวอัฟกานิสถานวัย 17 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานของเธอในการต่อต้านการกดขี่สตรีโดย

'สับปะรดห้วยมุ่น' ขึ้นทะเบียน GI ยกระดับตลาดสินค้าเกษตรไทย

“คารม“ เผย ญี่ปุ่นขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ “สับปะรดห้วยมุ่น”  เป็นสินค้ารายการที่ 3 ต่อจาก กาแฟดอยช้าง และกาแฟดอยตุง ยกระดับตลาดสินค้าเกษตร

'โมริกาวะ'หวังชนะส่งท้ายปี ป้องกันแชมป์ 'โซโซ แชมเปี้ยนชิพ'ที่ญี่ปุ่น

คอลลิน โมริกาวะ โปรกอล์ฟมือ 4 ของโลกจากสหรัฐ เตรียมกลับมาป้องกันแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการโซโซ แซมเปี้ยนชิพ ที่สนามแอคคอร์เดีย กอล์ฟ นาราชิโนะ คันทรีคลับ ในเมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคมนี้ และหวังคว้าชัยชนะปิดฉากปีนี้อย่างสวยหรู หลังจากเมื่อปีที่แล้วทำผลงานดีที่สนามแห่งนี้ พร้อมทำสถิติคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการที่ 6 ในอาชีพ โดยทิ้งห่างคู่แข่ง 6 สโตรก

‘หมอธีระวัฒน์’ ยกรายงานญี่ปุ่น ประเมินผลวัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง

วัคซีนนั้นทำให้ระบบการตรวจตราเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดมะเร็งนั้นถดถอยลงโดยเฉพาะในระบบ ที่เรียกว่า innate immunity และความบกพร่องห่วงโซ่ ในระบบภูมิคุ้มกัน