มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 ราย และสูญหาย 11 ราย หลังเฮติเจอฝนตกหนักเมื่อสุดสัปดาห์ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่คุ้มครองพลเรือน เมื่อวันจันทร์
สภาพอากาศที่เลวร้ายได้ส่งผลกระทบต่อ 7 จังหวัด จากทั้งหมด 10 จังหวัดของเฮติ ฝนที่ตกหนักส่งผลกระทบต่อประชาชน 37,000 คน และทำให้มีผู้ต้องพลัดถิ่นฐานมากถึง 13,400 คน เมืองเลโอกานซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 40 กิโลเมตร ได้รับผลกระทบหนัก โดยได้รับความเสียหายจากแม่น้ำ 3 สายที่ไหลเข้าท่วม
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายที่นั่น เอิร์นสัน เฮนรี นายกเทศมนตรีเมืองเลโอกาน กล่าวกับเอเอฟพียอมรับว่าชาวบ้านกำลังรู้สึกสิ้นหวัง เนื่องจากหลายคนสูญเสียทุกอย่าง น้ำได้ทำลายไร่นากวาดเอาฝูงสัตว์เลี้ยงหายไป หลายพันครอบครับได้รับผลกระทบ ประชาชนต้องการอาหาร น้ำดื่มและยาอย่างเร่งด่วน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ธรรมนัส' เฉ่ง 'ชลประทาน' ยับ ปมน้ำท่วมตราด สั่งตั้งกรรมการสอบเอาผิดแล้ว
นายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดตราดว่า มีพื้นที่ประสบภัย (ระหว่าง 19-21 ก.ค. 2567 ) รวม 2 อำเภอ 6 ตำบล 6 ชุมชน 47 หมู่บ้าน ประกอบด้วย พื้นที่อำเภอเขาสมิง ประกอบด้วย ตำบลทุ่งนทรี หมู่ที่ 1,2,3,5, 7,8,9ตำบลเขาสมิง หมู่ที่ 1-9 ตำบลประ
“รองนายกฯ ภูมิธรรม” ห่วงอุทกภัยอีสาน สั่ง สทนช.บูรณาการเร่งติดตามพื้นที่ได้รับผลกระทบ
“รองนายกฯ ภูมิธรรม” ห่วงพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคอีสาน สั่งการให้ สทนช. บูรณาการหน่วยงานติดตามพื้นที่ได้รับผลกระทบ เร่งช่วยเหลือประชาชน
ตราดระทม! จมบาดาล 1 เมตร เดือดร้อน 3 พันคน
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนรักษ์คลองบางพระ ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนกิจสวัสดิ์ ถนนเทศบาล 3, 5 ถนนพัฒนาการปลายคลอง ถนนกิตติพัฒนา ซอยสืบแสวงทรัพย์ ซอยร่มไทร ซอยสุเหล่าแขกปลายคลอง ซอยสมจริง ซอยศาลเจ้าแม่ตาเหล ยังคงทรงตัว
เช็กเลย! อากาศ 'กทม.-ปริมณฑล' 4 วันล่วงหน้า
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลพยากรณ์อากาศ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล 4 วันล่วงหน้า (22 - 25 ก.ค.67)
จับตาสถานการณ์พายุโซนร้อน 2 ลูก 'พระพิรุณ-แคมี'
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอัปเดตภาพถ่ายดาวเทียม และสถานการณ์พายุเช้าวันนี้ 1.พายุโซนร้อน "พระพิรุณ
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 5 อัปเดตเส้นทางพายุโซนร้อน 'พระพิรุณ'
นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “พระพิรุณ” ฉบับที่ 5 (145/2567) โดยมีใจความว่า