สหรัฐ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ตั้งเป้าแบ่งปันข้อมูลแจ้งเตือนขีปนาวุธเกาหลีเหนือ

สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ตั้งเป้าที่จะแบ่งปันข้อมูลการแจ้งเตือนขีปนาวุธเกาหลีเหนือก่อนสิ้นปี 2566 โดยทั้งสามประเทศระบุในถ้อยแถลงหลังการประชุมสุดยอดผู้นำกลาโหมในสิงคโปร์

(จากซ้ายไปขวา) ใบหน้าของประธานาธิบดีเกาหลีใต้, ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น บนป้ายประท้วงที่มีเนื้อหาต่อต้านการจับมือเป็นพันธมิตรไตรภาคี (Photo by ANTHONY WALLACE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แถลงร่วมกันเกี่ยวกับความร่วมมือในการตอบสนองต่อขีปนาวุธเกาหลีเหนือ

พันธมิตรทางทหารทั้งสามชาติประกาศ
จะแบ่งปันข้อมูลการแจ้งเตือนขีปนาวุธของเกาหลีเหนือระหว่างกัน ก่อนสิ้นสุดปี 2566

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะปล่อยดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจรอวกาศเมื่อต้นสัปดาห์ แต่จบลงด้วยความล้มเหลวหลังจากจรวดขัดข้องและร่วงสู่ทะเล

แถลงการณ์ร่วมของสามชาติระบุว่า พันธมิตรไตรภาคีจะร่วมใช้กลไกการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนข้อมูลการเตือนขีปนาวุธแบบเรียลไทม์ก่อนสิ้นปี เพื่อปรับปรุงความสามารถของแต่ละประเทศในการตรวจจับและประเมินขีปนาวุธที่ยิงโดยเกาหลีเหนือ

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ, ยาสุคาซู ฮามาดะ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น และลี จงซ็อบ รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ได้หารือร่วมกันนอกรอบการประชุมสุดยอดความมั่นคงเอเชีย หรือแชงกรีล่า ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue: SLD) ที่ประเทศสิงคโปร์

ถ้อยแถลงระบุว่า มีการหารือเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือ ตลอดจนความพยายามในการปรับปรุงการฝึกซ้อมด้านความมั่นคงไตรภาคีและจัดการกับความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลงอีกฉบับหนึ่งว่า "พันธมิตรมุ่งมั่นที่จะสร้างความคืบหน้าเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อเปิดใช้งานกลไกการแบ่งปันแบบเรียลไทม์สำหรับข้อมูลการเตือนขีปนาวุธ"

รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวว่า "พวกเราจะดำเนินการการปรับปรุงความสามารถของประเทศพันธมิตรในการตรวจจับและประเมินภัยคุกคามของขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิง และพวกเราจะทำงานอย่างแน่วแน่เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้โดยเร็วที่สุด"

รัฐบาลโซล, โตเกียว และวอชิงตันต่างประณามการปล่อยดาวเทียมสอดแนม(ที่ล้มเหลว)ของเกาหลีเหนือ ซึ่งพวกเขากล่าวว่าเป็นการละเมิดมติของสหประชาชาติที่สั่งห้ามรัฐบาลเปียงยางจากการทดสอบใด ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ

"โครงการอาวุธทำลายล้างสูงและขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างประเทศ" เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริการะบุในถ้อยแถลงของพวกเขา

เกาหลีเหนือไม่มีดาวเทียมที่ใช้งานได้ในอวกาศ และผู้นำคิมจองอึนได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาดาวเทียมสอดแนมทางทหารเป็นอันดับแรกสำหรับรัฐบาลของเขา แม้ว่ามติของสหประชาชาติจะห้ามใช้เทคโนโลยีดังกล่าวก็ตาม

จึงเป็นที่มาให้รัฐบาลเปียงยางต่อยอดความพยายามปล่อยดาวเทียมที่จะมีความสำคัญต่อการติดตามความเคลื่อนไหวทางทหารของสหรัฐฯ และพันธมิตร

ก่อนการปล่อยดาวเทียมล้มเหลวครั้งล่าสุด รัฐบาลเปียงยางปล่อยดาวเทียมไปแล้ว 5 ดวงตั้งแต่ปี 2541 โดยประสบความล้มเหลว 3 ดวง แต่อีก 2 ดวงคาดว่าสามารถปล่อยขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จุรินทร์' ซัดเต็มๆ ดิจิทัลฯ เป็นแค่น้ำข้าวต้มที่จะสร้างพายุหมุนหนี้ให้ประเทศ

'จุรินทร์' ซัดงบกลางปี 67 กู้มาแจกเงินหมื่นเท่านั้น ฉะโครงการล่าช้าเพราะความโหลยโท่ยของ รบ. ย้ำ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ได้ไม่คุ้มเสีย เข้าทำนองประเทศเสียหายไม่ว่าขอให้ข้าได้หาเสียง