เปิดศึกโดรน ยูเครนโจมตีมอสโก ขณะที่เคียฟโดนรัสเซียบอมบ์เป็นวันที่สาม

ฝูงโดรนบุกโจมตีกรุงมอสโกแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่โดรนของรัสเซียเองก็โจมตีกรุงเคียฟต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

ผู้เชี่ยวชาญของยูเครนกำลังตรวจสอบชิ้นส่วนขีปนาวุธของรัสเซียที่ถูกยิงตกในกรุงเคียฟ (Photo by Sergei SUPINSKY / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า ยูเครน-รัสเซีย เปิดศึกโดรน ผลัดกันโจมตีเมืองหลวงของกันและกัน หลังจากกรุงเคียฟถูกโดรนรัสเซียโจมตี 3 วันต่อเนื่อง ยูเครนเอาคืนด้วยการส่งโดรนบุกป่วนกรุงมอสโก

ในขณะที่ยูเครนกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งใหญ่ต่อกองกำลังรัสเซีย รัฐบาลของปูตินจึงใช้ช่วงนี้ป่วนกรุงเคียฟด้วยโดรนโจมตีสร้างความเสียหายต่อเนื่องแล้ว 3 วัน

ล่าสุด รัฐบาลของเซเลนสกีเอาคืนด้วยการส่งฝูงโดรนโจมตีกรุงมอสโก เพื่อสร้างความเสียหายคืนเช่นกัน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวโทษรัฐบาลเคียฟสำหรับการโจมตีมอสโกและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน และความเสียหายเล็กน้อยต่ออาคาร

อาคารที่พักอาศัย 2 หลังที่โดนโจมตีตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวงรัสเซียและใกล้กับใจกลางเมืองและบริเวณสวนสาธารณะยอดนิยม

โดรน 2 ลำถูกสกัดกั้นเหนือพระราชวังเครมลินเมื่อต้นเดือน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่อากาศยานไร้คนขับโจมตีพื้นที่ที่อยู่อาศัยของพลเมืองในมอสโก ซึ่งอยู่ห่างจากแนวหน้าในยูเครนหลายร้อยกิโลเมตร

เดิมที การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนมักมุ่งเป้าไปยังพื้นที่นอกกรุงมอสโก รวมถึงฐานทัพทางทหารที่อยู่ห่างจากแนวหน้า

การโจมตีครั้งนี้จะถูกมองว่าเป็นการสร้างความหวาดกลัวทางจิตใจและเป็นการสร้างความอับอายครั้งใหญ่ให้กับรัฐบาลของปูติน ซึ่งยืนยันมาตลอดว่าความขัดแย้งที่ยืดเยื้อไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อชาวรัสเซีย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในถ้อยแถลงบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีการใช้โดรน 8 ลำในการโจมตีเมื่อวันอังคาร และโดรนเหล่านั้นถูกกำจัดหมดแล้ว พร้อมเสริมว่า มีรายงานพลเมือง 2 คนขอความช่วยเหลือทางการแพทย์หลังการโจมตี แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส

ขณะที่ฝั่งของยูเครนกล่าวว่า ได้ยิงโดรน 29 ลำจากทั้งหมด 31 ลำ โดยส่วนใหญ่อยู่เหนือกรุงเคียฟและภูมิภาคเคียฟ ถือเป็นการโจมตีครั้งล่าสุดของรัสเซีย ซึ่งเป็นครั้งที่สามของเมืองหลวงในรอบ 24 ชั่วโมง

เมื่อวันจันทร์ รัสเซียเพิ่งระดมยิงขีปนาวุธใส่กรุงเคียฟ ทำให้ประชาชนที่ตื่นตระหนกวิ่งหนีหาที่หลบภัยจ้าละหวั่น ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่ผิดวิสัยของรัสเซียเพราะกระทำในเวลากลางวัน แทนที่จะเป็นช่วงกลางคืนเหมือนปฏิบัติการที่ผ่านๆมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง