ไบเดน-แมคคาร์ธีตกลงเพดานหนี้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและแกนนำพรรคริพับลิกัน ประกาศบรรลุข้อตกลงร่วมกันเมื่อวันเสาร์ที่จะขยายเพดานหนี้ ทำให้สหรัฐรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ก่อนถึงกำหนดเส้นตายเพียงไม่กี่วัน

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและแกนนำพรรคริพับลิกันประกาศบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566 ตามเวลาในสหรัฐ

รัฐสภาสหรัฐจะลงมติให้ความเห็นชอบข้อตกลงนี้เพื่อขยายอำนาจการกู้ยืมของรัฐบาลในวันพุธที่ 31 พฤษภาคม เพียงไม่กี่วันก่อนถึงเส้นตายวันที่ 5 มิถุนายนที่กระทรวงการคลังสหรัฐประเมินว่ารัฐบาลจะไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อีกต่อไป ส่งผลให้เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกตกอยู่ในภาวะยุ่งเหยิงวุ่นวาย

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญในการเดินไปข้างหน้า แสดงถึงการประนีประนอมซึ่งหมายความว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ในสิ่งที่ต้องการ นั่นคือความรับผิดชอบของการบริหารประเทศ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนชาวอเมริกัน เพราะเป็นข้อตกลงที่ป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ที่ให้ผลหายนะใหญ่หลวง และอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ, บัญชีเกษียณอายุเสียหายและหลายล้านคนอาจต้องตกงาน

แมคคาร์ธีซึ่งหารือกับไบเดนเมื่อวันเสาร์ก่อนที่ทั้งคู่จะบรรลุข้อตกลงนี้ กล่าวว่ายังมีงานที่จะต้องทำอีกมากแต่เชื่อว่าการบรรลุข้อตกลงได้ในหลักการเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวอเมริกัน เขาจะหารือกับประธานาธิบดีไบเดนอีกครั้งในวันอาทิตย์เพื่อตรวจสอบร่างสุดท้ายของร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ฉบับนี้ และรัฐสภาจะจะลงมติให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้วันพุธ

การขยายเพดานหนี้เป็นมาตรการทางกฎหมายที่เกิดขึ้นมาหลายปีโดยไม่มีเรื่องขัดแย้ง ช่วยให้รัฐบาลยังคงกู้ยืมเงินและชำระหนี้ได้

แต่ในปีนี้พรรครีพับลิกันเรียกร้องให้มีการลดงบประมาณอย่างลงลึกซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายเพื่อสังคมสำหรับคนจนเพื่อแลกกับการขยายเพดานหนี้ โดยกล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้ยาขมเพื่อจัดการกับหนี้ก้อนมหึมามูลค่า 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของประเทศ

ไบเดนโต้แย้งว่าเขาจะไม่เจรจาเกี่ยวกับปัญหาการใช้จ่ายของประเทศในฐานะที่เป็นเงื่อนไขในการขยายเพดานหนี้และกล่าวหาว่าพรรครีพับลิกันนำเศรษฐกิจประเทศเป็นตัวประกัน

แต่ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายได้ยอมประนีประนอมกันบ้างแล้ว

ข้อตกลงดังกล่าวจะระงับข้อจำกัดหนี้ไปจนถึงเดือนมกราคม 2568 ขณะที่จำกัดการใช้จ่ายในงบประมาณปี 2567 และ 2568, นำเงินกองทุนโควิดที่ไม่ได้ใช้มาเป็นค่าใช้จ่าย, เร่งกระบวนการอนุญาตสำหรับโครงการพลังงานบางโครงการรวมถึงข้อกำหนดงานพิเศษบางอย่างสำหรับโครงการช่วยเหลือด้านอาหารสำหรับชาวอเมริกันที่ยากจน

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจาระบุข้อตกลงดังกล่าวรวมถึงการขยายเพดานหนี้เป็นเวลา 2 ปีหมายความว่าไม่มีความจำเป็นสำหรับการเจรจาในปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะดำเนินไปอย่างเต็มตัว และความต้องการของพรรคริพับลิกันที่จะตัดงบประมาณครั้งใหญ่ไม่อยู่ในข้อตกลงนี้.