ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาสังกัดพรรครีพับลิกัน อดีตลูกหม้อของโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2024 อย่างเป็นทางการ ด้วยคลิปวิดีโอผ่านทวิตเตอร์ “ผมลงสมัครตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อนำอเมริกาของเรากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
รอน เดอซานทิส-ผู้ลงนามในกฎหมายหลายฉบับของฟลอริดา ซึ่งมุ่งลดสิทธิและโอกาสในการมีส่วนร่วมของเพศทางเลือก-ยืนโพสท่าอยู่ด้านหน้าธงชาติสหรัฐฯ ขนาดยักษ์ แสดงตนว่าเป็นนักสู้เพื่อเสรีภาพและความปรองดอง แต่ในเบื้องต้นคลิปที่เขาโพสต์นั้นกลับมีปัญหาทางเทคนิค จึงนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงขบขันทันที
ตัวอย่างเช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดนทวีตว่า “ลิงก์นี้สิใช้งานได้” และมันก็เป็นลิงก์ที่พาไปยังเว็บไซต์บริจาคสำหรับแคมเปญหาเสียงของเขา หรือแม้แต่ผู้ประกาศข่าว Fox News ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมก็ยังบรรยายถึงการประกาศของเดอซานทิสว่าเป็น “หายนะบนทวิตเตอร์” ส่วนอีลอน มัสก์ทวีตคำขอโทษเกี่ยวกับความผิดพลาดของทวิตเตอร์ “เรามีผู้ใช้ออนไลน์จำนวนมาก ดังนั้นเซิร์ฟเวอร์จึงค่อนข้างโอเวอร์โหลด”
เดอซานทิสทวีตในเวลาต่อมา “เราต้องยุติวัฒนธรรมขี้แพ้ที่แพร่ระบาดในพรรครีพับลิกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเสียที” ข้อความดังกล่าวเขาน่าจะหมายถึงโดนัลด์ ทรัมป์ ที่พ่ายแพ้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020
แต่จากผลสำรวจพบว่า คะแนนเสียงของผู้นำสายอนุรักษ์นิยมอย่างทรัมป์ยังนำหน้าอยู่ เพราะอย่างน้อยเขาก็มีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกันอยู่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการลงคะแนนเสียงที่เหลือในไพรมารีจะกระจายไปตามผู้สมัครคนอื่นๆ จำนวนมาก ในขณะที่ทรัมป์ก็มีคนโหวตปกติ เขาจึงมีคะแนนนำเดอซานทิศอย่างชัดเจน
ถึงกระนั้น กรณีของทรัมป์ ไม่มีใครล่วงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง อย่างเช่น คดีในศาลมากมายที่ทรัมป์ยังต้องพิสูจน์ตัวเอง และนั่นทอาจส่งผลต่อความนิยมของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ ถึงตอนนั้นพรรครีพับลิกันจะยังต้องการผู้สมัครอย่างทรัมป์จริงๆ หรือจะส่งคนอย่างรอน เดอซานทิส หรือผู้สมัครคนที่สาม
โดนัลด์ ทรัมป์ตอบโต้คำประกาศของเดอซานทิสด้วยประโยคเฉียบคม เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา “แทนที่เขาจะรู้สึกขอบคุณ ตอนนี้เดอซานทิสกำลังโจมตีคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้” คนที่จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งมีเพียงคนเท่านั้น นั่นคือ โดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในทำเนียบขาว เขาสามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประวัติศาสตร์ของการแข่งขันระหว่างเขากับเดอซานทิสนั้นยาวนาน และทรัมป์ก็ยังเคยเป็นผู้สนับสนุนเดอซานทิสมาก่อน
เมื่อครั้งที่เดอซานทิสลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐฟลอริดาในปี 2018 เขายังไม่เป็นที่รู้จักของคนในแวดวงการเมือง โอกาสที่เขาจะได้รับชัยชนะจึงมีน้อยมาก แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ในขณะนั้นเรียกร้องให้สาธารณชนสนับสนุนเดอซานทิส และเดอซานทิสเองก็กล่าวยกย่องทรัมป์ระหว่างการหาเสียงและในสปอตหาเสียงทางทีวี ท้ายที่สุดเดอซานทิสไม่เพียงแต่ได้รับชัยชนะในการเสนอชื่อผู้สมัครของพรรคเท่านั้น หากยังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งตำแหน่งผู้ว่าการรัฐด้วย นับแต่นั้นมาทรัมป์มักอ้างชัยชนะของคนที่เขาสนับสนุนอยู่เสมอ มาคราวนี้เขากล่าวหาเดอซานทิสว่าไม่ซื่อสัตย์ เพราะความทะเยอทะยานที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
นโยบายของเดอซานทิสมีลำดับความสำคัญคล้ายกันกับของทรัมป์ ซึ่งเป็นฝ่ายขวาในทางการเมือง แต่ดูเหมือนว่าเดอซานทิสจะมีอุดมการณ์มากกว่า ในเรื่องการจำกัดเสรีภาพ ตัวอย่างเช่น เขาเพิ่งลงนามในกฎหมายรัฐฟลอริดาที่เข้มงวดกับกฎการทำแท้ง ซึ่งแม้แต่สมาชิกของกลุ่ม Pro-Life ที่เคลื่อนไหวต่อต้านการทำแท้งในสหรัฐฯ เอง ก็ยังรู้สึกว่านโยบายของเดอซานทิส “เข้มงวดเกินไป”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ