สีจิ้นผิงของจีนพร้อมจับมือรัสเซียอย่างมั่นคง เพื่อผลประโยชน์หลักร่วมกัน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนพร้อมผลักดันความร่วมมือเพื่อรักษาผลประโยชน์หลักกับรัฐบาลมอสโก ในการประชุมหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีรัสเซีย

นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มีชุสติน ของรัสเซีย (ซ้าย) จับมืออย่างชื่นมื่นกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน ระหว่างการประชุมร่วมกันในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม (Photo by Alexander ASTAFYEV / SPUTNIK / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มีชุสติน ของรัสเซีย อยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจการเยือนจีน ซึ่งล่าสุดเขาได้มีโอกาสร่วมประชุมหารืออย่างชื่นมื่นกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนและรัสเซียได้เพิ่มพูนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ทางการทูต และเริ่มกลายเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่แน่นแฟ้นขึ้นนับตั้งแต่การสู้รบในยูเครน แม้ว่ารัฐบาลปักกิ่งจะออกตัวแสดงความเป็นกลางในความขัดแย้งดังกล่าวมาตลอดก็ตาม

ในการประชุม สีจิ้นผิงบอกกับมีชุสตินว่า จีนและรัสเซียจะยังคงให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลัก และเสริมสร้างความร่วมมือในเวทีพหุภาคี

"จีนและรัสเซียควรผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้มากขึ้น และยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ, การค้า และการลงทุน" สีจิ้นผิงกล่าว

ก่อนหน้านี้ มีชุสตินได้พบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน ท่ามกลางพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่นอกมหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งนายกฯรัสเซียได้กล่าวสุนทรพจน์ไว้ว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีนอยู่ในระดับสูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน พวกเราเคารพในผลประโยชน์ของกันและกัน และยังปรารถนาที่จะร่วมตอบสนองต่อความท้าทายที่ปั่นป่วนเพิ่มขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ รวมทั้งแรงกดดันจากการคว่ำบาตรอย่างผิดกฎหมายของกลุ่มตะวันตก"

ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย โดยการค้าระหว่างกันมีมูลค่าสูงถึง 190,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท)ในปีที่แล้ว ตามข้อมูลของศุลกากรจีน และคาดการณ์ว่าการค้าทวิภาคีจะมีมูลค่า 70,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท)ในปีนี้

นายกรัฐมนตรีจากทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับหลังการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้า, การบริการ และกีฬา ตลอดจนสิทธิบัตรและการส่งออกข้าวฟ่างของรัสเซียไปยังจีน

การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ มีชุสตินมาพร้อมกับคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ โนวัค ซึ่งดูแลเรื่องนโยบายพลังงาน

เมื่อปีที่แล้ว จีนกลายเป็นลูกค้าด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียซึ่งส่งออกก๊าซได้น้อยลง เพราะถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก และโนวัคกล่าวในการประชุมธุรกิจรัสเซีย-จีนในเซี่ยงไฮ้เมื่อวันอังคารว่า การจัดหาพลังงานของรัสเซียไปยังจีนจะเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2566

นักวิเคราะห์เชื่อว่าจีนถือไพ่เหนือกว่าในความสัมพันธ์กับรัสเซีย และอิทธิพลของจีนก็เพิ่มขึ้นมากหลังรัสเซียถูกโดดเดี่ยวในประชาคมโลกมากขึ้น อีกทั้งผู้นำของทั้งสองประเทศถูกสถานการณ์ปัจจุบันดึงให้มาร่วมมือกันด้วยความคับแค้นใจและความไม่มั่นคง มากกว่าเป้าหมายและผลประโยชน์ที่มีร่วมกันอย่างแท้จริง.