ประธานาธิบดีไต้หวันให้คำมั่นจะคงสภาพอธิปไตยแบบที่เป็นอยู่ ในการรักษาความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่

ผู้นำไต้หวันให้คำมั่นกับประชาชนว่า จะรักษาสันติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน ท่ามกลางแรงกดดันทางทหารที่เพิ่มขึ้นจากจีน ส่งสัญญาณไม่เลือกทำสงคราม

ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน กล่าวปราศรัยระหว่างการแถลงข่าวครบรอบ 7 ปีของการดำรงตำแหน่ง ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไทเป เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม (Photo by Sam Yeh / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ปราศรัยในวันครบรอบการดำรงตำแหน่งปีที่ 7 ของเธอ ด้วยการให้คำมั่นว่าไต้หวันจะดำรงสถานะประชาธิปไตยต่อไป โดยไม่ยอมตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่แบบ 'หนึ่งประเทศ สองระบบ'

ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 2 วาระของไช่ อิงเหวิน เกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้ได้เห็นการรุกล้ำน่านฟ้าโดยเครื่องบินรบและการรุกรานทางทะเลอยู่บ่อยครั้ง จากจีนซึ่งอ้างสิทธิ์ในฐานะเจ้าของดินแดน

ไช่ ปฏิเสธว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และย้ำเสมอในระหว่างที่เธอดำรงตำแหน่งว่า พลเมืองของเกาะแห่งนี้ได้แสดงให้ประชาคมโลกเห็นถึง "ความมุ่งมั่นในการปกป้องตนเอง" เสมอมา

"เมื่อเผชิญกับการโจมตีทางพลเรือนและการคุกคามทางทหารของจีน ชาวไต้หวันดำรงตนด้วยความสงบ, ไม่ก้าวร้าว, มีเหตุผล และไม่ยั่วยุ" เธอกล่าว และเสริมว่า สงครามไม่ใช่ทางเลือก และทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่เพียงฝ่ายเดียวในลักษณะที่ไม่สันติ

"ไต้หวันจะไม่ยั่วยุ, ไม่ก้าวร้าว และแน่นอนว่าเราจะไม่ยอมแพ้ภายใต้ความกดดัน" ไช่กล่าวทิ้งท้าย

คำปราศรัยของไช่มีขึ้นในขณะที่ไต้หวันเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมกราคม 2567

ทั้งนี้ไช่ อิงเหวินซึ่งอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 จะดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ แต่ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีก เนื่องจากข้อจำกัดที่กำหนดไว้ไม่ให้เป็นผู้นำเกิน 2 สมัย

การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในเดือนมกราคม ถูกมองว่าเป็นการหยั่งประชามติถึงการจัดการความสัมพันธ์ของไต้หวันกับจีนของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ซึ่งมีปัญหาระหว่างที่เธอดำรงตำแหน่ง ในทางตรงกันข้าม พรรคก๊กมินตั๋งก็สนับสนุนความสัมพันธ์ที่อบอุ่นกว่ากับจีน

พรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่เป็นมิตรกับจีน ได้เสนอชื่อโฮ ยู่อี๋ นายกเทศมนตรีที่ได้รับความนิยมที่สุดคนหนึ่ง เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ขณะที่พรรคประชาธิไตยก้าวหน้าซึ่งเป็นรัฐบาลปัจจุบัน ได้เสนอชื่อรองประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไป

ในอดีต รัฐบาลปักกิ่งได้เสนอข้อตกลง "หนึ่งประเทศ สองระบบ"แก่ไต้หวัน แบบเดียวกับสถานะที่ฮ่องกงเป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่ชาวไต้หวันส่วนใหญ่ปฏิเสธรูปแบบการปกครองดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่จีนบดขยี้เสรีภาพทางการเมืองในฮ่องกงและให้อำนาจปกครองตนเองแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น

รัฐบาลปักกิ่งเองก็ย้ำเสมอว่า ความเคลื่อนไหวใด ๆ ของไต้หวันต่อการประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ จะกระตุ้นให้เกิดการใช้กำลังทหารในการยึดคืน.

เพิ่มเพื่อน