เจ้าหน้าที่ในกรุงปักกิ่งของจีนขอให้สถานเอกอัครราชทูตตะวันตกหลายแห่งนำสัญญาณทางการเมืองออกจากกำแพงอาคารด้านนอก
ธงชาติยูเครนพร้อมข้อความสนับสนุนยูเครน (ซ้าย) และโปสเตอร์สนับสนุนวันสากลยุติความเกลียดกลัวคนรักร่วมเพศ คนข้ามเพศ และคนรักสองเพศ (ขวา) ปรากฏอยู่บนผนังของอาคารสถานทูตแคนาดาในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม (Photo by Hector RETAMAL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 17 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตชาติตะวันตกหลายแห่งทั่วกรุงปักกิ่งติดธงชาติยูเครนด้านนอกอาคารทำการ เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับการต่อสู้ของประเทศนี้ต่อการรุกรานของรัสเซีย ขณะที่บางแห่งมีข้อความสนับสนุนเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในคณะผู้แทนยุโรปหลายแห่งบอกกับเอเอฟพีว่า พวกเขาได้รับหนังสือแจ้งจากทางการจีนในสัปดาห์นี้ขอให้พวกเขานำป้ายแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองดังกล่าวออก ซึ่งคณะผู้แทนฯบอกว่าพวกเขาจะปฏิเสธคำขอและจะไม่เปลี่ยนนโยบาย
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจากสถานเอกอัครราชทูตชาติยุโรปแห่งหนึ่งยืนยันว่ามีคำขอดังกล่าวจริง โดยกล่าวว่าถึงแม้ไม่ได้เจาะจงโดยตรง แต่ค่อนข้างแน่นอนว่าเกี่ยวพันกับสงครามที่เกิดขึ้นในยูเครน
แต่เจ้าหน้าที่จากสถานทูตชาติยุโรปอีกแห่งกล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าคำขอดังกล่าวเชื่อมโยงกับยูเครนหรือวันสากลยุติความเกลียดกลัวคนรักร่วมเพศ คนข้ามเพศ และคนรักสองเพศ ซึ่งตรงกับวันที่ 17 พฤษภาคม
สถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศบางแห่งในกรุงปักกิ่งได้ชูธงแห่งความภาคภูมิใจเพื่อระลึกถึงการรณรงค์ดังกล่าว ซึ่งจะมีการแสดงออกทางสัญลักษณ์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของกลุ่มแอลจีบีที (LGBT) ทั่วโลก
เจ้าหน้าที่สถานทูตกล่าวว่า พวกเขาปฏิบัติตามอนุสัญญากรุงเวียนนาอย่างเคร่งครัด ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องตอบสนองต่อคำขอดังกล่าวหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายการแสดงออก
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลปักกิ่งเคยยืนยันต่อสาธารณชนผ่านการสัมภาษณ์กับสื่อว่า สถานทูตต่างประเทศมีหน้าที่ต้องเคารพกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของจีน
"จีนเรียกร้องให้สถานเอกอัครราชทูตของทุกประเทศในจีน ปฏิบัติหน้าที่ตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต หรือข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง" หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เคยกล่าวไว้
ทั้งนี้ อนุสัญญาดังกล่าวเน้นย้ำว่านักการทูตมีหน้าที่ "ไม่แทรกแซงกิจการภายใน" ของประเทศเจ้าภาพ แต่ก็ไม่ได้ห้ามแสดงออกผ่านป้ายซึ่งติดไว้บนผนังด้านนอกของอาคารสถานทูต
จีนพยายามแสดงตนเป็นกลางในสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยเรียกร้องให้มี "ข้อตกลงทางการเมือง" เพื่อเป็นการหาทางออกของวิกฤต
แต่ความเห็นล่าสุดของเอกอัครราชทูตจีนประจำฝรั่งเศสที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของอดีตสหภาพโซเวียต ยิ่งทำให้เกิดความสงสัยมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นกลางที่กล่าวอ้างนั้น ขณะที่เอกสารแสดงจุดยืนจากรัฐบาลปักกิ่งเกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งในยูเครนก็ยังมีข้อน่ากังขาจากฝั่งสหรัฐอเมริกาและองค์การนาโต.