อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษเรียกร้องริชี ซูนัค ผู้นำคนปัจจุบันให้แสดงท่าทีแข็งกร้าวกับจีนในเรื่องไต้หวัน โดยชี้ว่าเกาะประชาธิปไตยแห่งนี้เป็นดั่งคำตำหนิต่อลัทธิเผด็จการ
ลิซ ทรัสส์ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษกล่าวปราศรัยในกรุงไทเป ระหว่างการเยือนไต้หวันเป็นเวลา 5 วัน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม (Photo by I-Hwa Cheng / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 17 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า ลิซ ทรัสส์ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษ เดินทางเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 5 วัน และใช้โอกาสในการแถลงต่อสื่อมวลชนกล่าวหาริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบันและรัฐบาลตะวันตกชาติอื่นๆ ว่า "พยายามยึดมั่นในแนวคิดที่ว่าเราสามารถร่วมมือกับจีนในประเด็นต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ราวกับว่าไม่มีอะไรผิด"
"แต่หากไม่มีเสรีภาพและประชาธิปไตย ก็ไม่มีอะไรอื่น เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพโลกภายใต้ระบอบเผด็จการที่ไม่พูดความจริง คุณไม่สามารถเชื่อคำที่พวกเขา (จีน) พูดได้" เธอกล่าว
ทรัสส์ยังเรียกร้องให้ซูนัคทำตามคำมั่นสัญญาระหว่างการรณรงค์หาเสียงผู้นำพรรคอนุรักษนิยมเมื่อปีที่แล้ว เพื่อกำหนดให้จีนเป็น "ภัยคุกคาม" ทางยุทธศาสตร์ และกล่าวต่อไปว่าชาติตะวันตกไม่สามารถหลีกเลี่ยง "สงครามเย็น" กับรัฐบาลปักกิ่งได้อีก
"เห็นได้ชัดเจนอย่างยิ่งว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีความทะเยอทะยานที่จะยึดครองไต้หวัน เราไม่รู้แน่ชัดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อใด และเราไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่สิ่งที่เราทำได้คือทำให้แน่ใจว่าไต้หวันได้รับการปกป้องมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" ทรัสส์กล่าวในการแถลงข่าวในเวลาต่อมา
ริชี ซูนัคเคยตอบโต้วาทศิลป์ที่แข็งกร้าวต่อจีนที่ทรัสส์ใช้ก่อนและระหว่างดำรงตำแหน่งผู้นำอังกฤษ 49 วันเมื่อปีที่แล้ว
เธอถูกขับออกจากตำแหน่งหลังจากนโยบายเศรษฐกิจแบบสุดโต่งของเธอทำให้ตลาดการเงินพังทลาย และตั้งแต่นั้นมา ทรัสส์ซึ่งยังคงเป็นส.ส.ได้พยายามสร้างประวัติของเธอใหม่ด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ในต่างแดน ทั้งในโตเกียว (ญี่ปุ่น), วอชิงตัน (สหรัฐอเมริกา) และโคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)
ล่าสุด รัฐบาลจีนประณามการเยือนไต้หวันของทรัสส์ว่าเป็น "การแสดงออกทางการเมืองที่อันตราย ซึ่งจะไม่ส่งผลอะไรนอกเหนือไปจากความเสียหายของสหราชอาณาจักรเอง"
โฆษกสถานทูตจีนในลอนดอนกล่าวหาลิซ ทรัสส์ว่า "สมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนของไต้หวัน เพื่อยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า" ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ก่อนที่ทรัสส์ขึ้นปราศรัยในกรุงไทเป และเสริมอีกว่าการเยือนของทรัสส์จะยิ่งเปิดโปงตัวเองว่าเป็นนักการเมืองที่ล้มเหลว
อดีตผู้นำหญิงรายนี้ยังเผชิญกับข้อกล่าวหาที่อังกฤษว่าเธอหลงระเริงกับการพูดจาโผงผางอย่างไร้ความรับผิดชอบเพื่อรักษาบทบาททางการเมืองของตัวเอง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งได้เพิ่มการโจมตีทางอากาศและทางทะเลรอบๆ ไต้หวัน ซึ่งประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่จีนถือว่าไต้หวันที่ปกครองตนเองเป็นดินแดนของตนและต่อต้านการมีตัวตนในเวทีระหว่างประเทศของเกาะแห่งนี้ รวมถึงการมาเยือนของบุคคลสำคัญทางการเมืองต่างประเทศที่มีชื่อเสียง.
