สหรัฐฯ ครองสถิติ 'ทุกวันมีคนถูกยิงตาย 55 คน'

AFP

ในแต่ละวันมีผู้เสียชีวิต 55 คนในสหรัฐอเมริกา และหลังจากลั่นกระสุนปืนฆ่ากันแล้วผู้คนมักออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับสิทธิในการใช้หรือครอบครองอาวุธปืน อย่างไรก็ตาม ประเทศนี้มีปริมาณปืนมากกว่าจำนวนประชากร

จากข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ที่มีการกดกริ่งประตูผิดบ้านโดยไม่ตั้งใจและในนาทีต่อมาเจ้าของบ้านก็ถูกยิง นั่นเป็นเหตุการณ์ที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อปริมาณการซื้ออาวุธปืนไว้ในครอบครองเพิ่มขึ้น จำนวนเหยื่อก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ข้อมูลของ Gun Violence Archive ปี 2022 ระบุว่า ทุกวันมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 55 คนและบาดเจ็บ 106 คนในสหรัฐอเมริกา จนถึงสิ้นเดือนเมษายนปีนี้ มีผู้เสียชีวิตจากกระสุนปืนมากกว่า 13,000 คน และจำนวนการกราดยิงใส่ฝูงชนทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเกิน 4 คนก็เพิ่มขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา

แต่ไม่ใช่ว่า รัฐที่มีการครอบครองปืนมากที่สุดจะมีคนถูกยิงมากที่สุด อัตราการเสียชีวิตจากการถูกยิงในแต่ละรัฐแตกต่างกันมาก อย่างเช่น 56 เปอร์เซ็นต์ของประชาชนในรัฐมิสซิสซิปปีมีปืน แต่อัตราการเสียชีวิตสูงสุดที่ประมาณ 34 คนต่อประชากร 100,000 คน ในทางกลับกัน รัฐที่มีประชากรเบาบางอย่างมอนทานา ไวโอมิง และอลาสกา กว่า 65 เปอร์เซ็นต์มีอาวุธปืนอย่างน้อยหนึ่งกระบอก แต่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 25 ต่อประชากร 100,000 คนเท่านั้น ส่วนนิวยอร์ก ซึ่งมีพื้นที่ขนาดเล็กและมีประชากรหนาแน่น มีอัตราการเสียชีวิต 5.4 คนต่อประชากร 100,000 คน โดยมีเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่มีอาวุธปืนในความครอบครอง

ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์กราดยิงทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ก็จะเกิดการถกเถียงกันเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายปืน และเมื่อมีการเสนอให้ใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้นแล้ว ยอดขายอาวุธปืนก็เพิ่มขึ้นอีก เมื่อปี 2012 ที่มีการกราดยิงที่โรงเรียนประถมแซนดีฮุก ในคอนเนกติกัต ทำให้มีผู้เสียชีวิต 28 คน ในจำนวนนั้นเป็นเด็กเล็ก 20 คน หนึ่งเดือนหลังจากนั้นอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามาได้ยื่นข้อเสนอเพื่อแก้กฎหมายอาวุธปืนให้กระชับมากขึ้น เช่น ห้ามการครอบครองปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติเพื่อใช้ส่วนตัว หรือการคัดกรองผู้ซื้อปืนทุกคน ในช่วงเวลานั้นยอดขายปืนกลับเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2 ล้านกระบอก ขณะที่ข้อเสนอกลับไม่ได้รับความเห็นชอบจากเสียงข้างมากในรัฐสภาสหรัฐฯ

เดือนมิถุนายน 2022 ยอดขายปืนเพิ่มขึ้นกว่า 2.6 ล้านกระบอกกลายเป็นสถิติใหม่ ในช่วงเวลานั้นเริ่มมีการประท้วงประเด็น ‘Black Lives Matter’ และความไม่สงบเริ่มคุกคามในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกทั้งผู้คนเริ่มมีความกังวลอีกครั้งเกี่ยวกับการปรับแก้กฎหมายปืนหากพรรคดีโมแครตชนะการเลือกตั้ง ดังนั้นปืนที่แต่ละครัวเรือนมีอย่างน้อยหนึ่งกระบอกจึงเพิ่มขึ้นถึง 45 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2022

Mass Shooting Tracker บันทึกไว้ว่า ปี 2022 มีการกราดยิงใส่ฝูงชนทั้งหมด 753 ครั้งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จำนวนครั้งน้อยกว่าปีก่อนหน้า เพราะตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมาเหตุการณ์กราดยิงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ข้อมูลจาก Gun Violence Archive ล่าสุด รวบรวมจนถึงวันที่ 25 เมษายน 2023 คือ มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืน 13,271 คน (ในจำนวนนั้น 5,681 คนเสียชีวิตจากการถูกทำร้าย ฆาตกรรม หรือเจตนาฆ่า และ 7,590 คนฆ่าตัวตาย) มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10,398 คน และเกิดเหตุการณ์กราดยิงใส่ฝูงชน 173 ครั้ง

และจากข้อมูลของ Pew Research Center สะท้อนให้เห็นความขัดแย้งของพรรคการเมืองเช่นกัน – 81 เปอร์เซ็นต์ของพรรครีพับลิกันเห็นว่าการมีปืนเพื่อปกป้องสิทธิ์เป็นเรื่องสำคัญ ในขณะที่ 81 เปอร์เซ็นต์ของพรรคดีโมแครตเห็นความสำคัญของการควบคุมการครอบครองอาวุธปืนมากกว่า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ถึงสหรัฐ เตรียมประชุมเอกอัครราชทูต-กงสุลใหญ่ หารือภาคธุรกิจ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา

ไขข้อข้องใจ! ทำไมกินช็อกโกแลตแล้วสุขภาพดี

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กินช็อกโกแลตแล้วสุขภาพดี…… สนใจมั้ย?